กระดานสุขภาพ

ประจำเดือน
Quee*****e

7 พฤศจิกายน 2557 14:37:44 #1

ดิฉันรับประทานยาคุมมาได้ปีกว่าแล้ว แล้วเดือนนี้รู้สึกคัดหน้าอกช่วงกลางเดือนอาการเหมือนช่วงที่จะเป็นประจำเดือนและก็หายเจ็บช่วงที่หยุดยาคุม7วัน (ทานยาคุม***) พอครบ 28 วันประจำเดือนก็ยังไม่มา  ปกติประจำเดือนมาตรงหรือเลทแค่1วัน แต่มาน้อยมากเป็นบางเดือน ปกติ 2-3วัน  แต่เดือนนี้ รู้สึกเหมือนประจำเดือนจะมาแค่ กระปิดกระปอย ไม่เปื้อนผ้าอนามัย จะเห็นเฉพาะ ตอน เข้าห้องน้ำ 2-3หยด  สีคล้ำๆจางๆๆ  

อยากทราบว่า 

1.ประจำเดือนมาน้อยมากๆ เข้าห้องน้ำแต่ละที เห็น 2-3 หยดจางๆ เกิดจากรับประทานยาคุมเป็นเวลานานหรือป่าวค่ะ

2.หรือเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก

3.ดิฉันรับประทานยาคุมที่มีฮอโมนต่ำ หรือป่าวค่ะ  ทำให้ประจำเดือนมาน้อย

4.วิธีแก้ปัญหา

 

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 82 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 30.86 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

7 พฤศจิกายน 2557 15:06:25 #2

ถึง คุณ queenny.smile

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ queenny.smile ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

Quee*****e

8 พฤศจิกายน 2557 03:50:58 #3

เพิ่มเติมนะค่ะ

ทานยาคุมทุกวัน  แต่ไม่ตรงเวลาบ้างเลทเวลานิดหน่อย แต่ไม่เคยลืม 

 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

8 พฤศจิกายน 2557 16:11:44 #4

เรียน คุณ queenny.smile,
ขอแยกตอบเป็นสองประเด็นหลัก ๆครับ คือ

1. ประเด็นเรื่องการตั้งครรภ์ ถ้าคุณมั่นใจว่ารับประทานยาได้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ ไม่เคยลืมรับประทานยา ไม่ต้องกังวลนะครับ เนื่องจากอัตราเสี่ยงในการตั้งครรภ์น้อยมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณเคยลืมรับประทานยา (มากกว่า 2 วัน) หรือรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ (ไม่ควรคลาดเคลื่อนมากกว่า +/- 1 ชั่วโมง) ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมารับประทานร่วมกันโดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร "ก่อน" (เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา หรือ "ยาตีกัน") ก็อาจทำให้อัตราเสี่ยงในการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 8-15 เปอร์เซ็นต์ได้ นอกจากนี้ควรรับประทานยาทุกชนิดด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มอื่น ๆอาจทำให้ตัวยาตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมตัวยาได้ เช่น ชา ชาเขียว กาแฟ นม น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม โกโก้ ฯ หรือเครื่องดื่มอื่น ๆจะกระตุ้นให้ร่างกายกำจัดตัวยาออกทางตับได้เร็วขึ้น เช่น น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำเกรปฟรุต น้ำแครนเบอร์รี่ เป็นต้น

2. ประเด็นเรื่องประจำเดือนมาน้อย หรือไม่มา อาจเกิดจากการเลือกรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนเพศไม่สมดุลกับร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือมีไขมันในช่องท้องมาก ฮอร์โมนเพศจะละลายได้ดีในไขมัน ทำให้ปริมาณประจำเดือนน้อยลงได้ และผู้ที่มีไขมันในช่องท้องมาก จะมีการสร้างฮอร์โมนเพศนอกเหนือจากที่รังไข่อีกด้วย ส่วนเรื่องการรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานานนั้น เท่าทีมีการศึกษาวิจัย คือในผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวอื่น ๆเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคตับเรื้อรัง หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด เคยรับประทานยานานสุด 12 ปี โดยที่ไม่มีอาการผิดปกติอื่นใด ทั้งนี้ควรมีการตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี เนื่องจากทุกวันนี้เราได้รับสารพิษแปลกปลอมจากในอาหารหรือสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว

ดังนั้นจากข้อมูลข้างต้นคุณคงพอได้คำตอบสำหรับข้อสงสัยของคุณ 1. และ 3. เรื่องประจำเดือนมาน้อย ถ้าคุณยังรู้สึกกังวล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อปรับชนิดของฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดให้เหมาะสมกับคุณ 2. ถ้าคุณรับประทานยาได้อย่างถูกต้อง ก็ไม่ใช่เลือดล้างหน้าเด็กครับ 4. วิธีแก้ปัญหา ทำได้หลายแบบ เมื่อทราบเหตุผลแล้ว ก็ไม่ต้องปรับยา เพียงแต่ประจำเดือนจะมาน้อยกว่าปกติเท่านั้น หรือพบแพทย์เพื่อปรับยาคุมกำเนิดให้เหมาะสม หรือรับประทานยาเดิม ร่วมกับการควบคุมอาหาร เพื่อลดน้ำหนักส่วนเกิน จะช่วยลดปริมาณไขมันในช่องท้อง ที่สร้างฮอร์โมนเพศส่วนเกิน และช่วยให้คุณสุขภาพดีได้อีกด้วย หรือปรับวิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆที่ไม่ต้องใช้ฮอร์โมน เช่นการใส่ห่วงทองแดงเพื่อคุมกำเนิด ที่สามารถใช้ได้นานติดต่อกันถึง 5 ปี เป็นต้น

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) การคุมกำเนิด (Contraception) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์

Quee*****e

9 พฤศจิกายน 2557 15:14:38 #5

เมื่อวันที่ 8  ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจตอน 19.00 ผลเป็นลบ  อยากทราบว่า ตรวจตอนเวลาดังกล่าว เชื่อถือได้หรือไม่ค่ะ หรือต้องตรวจตอนเช้า 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

11 พฤศจิกายน 2557 14:38:03 #6

Dear Khun queenny.smile,
ขออนุญาตตอบเป็น 2 ประเด็น คือ
1. หากรับประทานยาอย่างถูกต้อง และสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ตรวจครรภ์
2. ถ้าจะตรวจการตั้งครรภ์ให้ได้ผล คือประมาณ 7-10 วันหลังจากกำหนดวันที่ประจำเดือนควรจะมา โดยควรตรวจในช่วงเช้า, การเก็บปัสสาวะให้เก็บเฉพาะช่วงกลาง (ช่วงแรก และช่วงท้ายให้ทิ้งไป) ทิ้งไว้ไม่เกิน 5 นาทีแล้วอ่านผลครับ ถ้าผลเป็นลบ คือไม่ตั้งครรภ์ครับ

หากคุณยังกังวลใจ แนะนำให้ปรึกษาสูติ-นรีแพทย์ เพื่อทำการตรวจเลือด จะได้ผลแน่นอนกว่า หรือหาสาเหตุที่แท้จริงของการที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล