กระดานสุขภาพ

ต่อมน้ำเหลืองขาหนีบบวม อยู่ต่างประเทศเครียดมากคับ
Anonymous

29 ตุลาคม 2557 00:27:22 #1

ผมเป็นนร.อยู่อังกฤษ ขณะนี้วันอังคารที่ 28 ตค. 2557 เวลา 23.50 พอดีว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมมี sex กับรุ่นน้องที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่มีอะไรกันภายนอก ไม่ได้มีการสอดใส่แต่อย่างใดจึงไม่ได้ใช้ถุงยางคับ แต่มีการใช้อวัยวะเพศของผมถูที่ปากทวารหนักของน้องเขาบ้าง พอกลับมาบ้านคืนนั้นผมก็คันผิวหนังตรงบริเวณต่อมน้ำเหลืองตรงขาหนีบ ซึ่งผมก็คันตามร่างกายเป็นปกติตามประสาคนผิวแห้งอยู่แล้ว และ 4-5 วันที่ผ่านมานี้อากาศก็เริ่มหนาวขึ้นด้วย จึงสามารถเกิดอาการคันได้ง่ายขึ้น นิสัยส่วนตัวผมเป็นคนเกาแรงจึงทำให้มีแผลถลอกนิดหน่อยเป็นบางทีอยู่แล้วจึงทำให้ผิวหนังตรงต่อมน้ำเหลืองมีแผลถลอกจากการเกาคับ

 

คืนเมื่อวานนี้เอง(คืนวันจันทร์)ผมไข้ขึ้นและต่อมน้ำเหลืองบวมปวดหน่อยๆจึงทานยาลดไข้ไปคับ แล้วตรงต่อมที่บวมผมก็คิดว่าโดน Bugbed กัด จึงทายาหม่องไป จนกระทั่งเช้าวันนี้(วันอังคาร)มันยังไม่หายบวดและยังไม่หายบวม (แต่ไข้ผมหายแล้ว) ผมจึงกินยาแก้อักเสปอาม๊อกซี่ซิลินไปคับ แล้วก็ออกไปเรียนปกติ พอกลับบ้านมาช่วงค่ำๆก็มาลองหากระทู้เกี่ยวกับอาการดู เจอคนที่มีลักษณะอาการคล้ายๆกัน คือกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคแผลริมอ่อนหนะคับ ผมจึงเครียดมาก แต่อาการของผมมีแค่ต่อมน้ำเหลืองตรงขาหนีบบวมที่เดียว อวัยวะเพศผมไม่มีแผลใดๆทั้งสิ้น และขาหรือเท้าผมไม่มีอาการบวมอะไรทั้งนั้นคับ อยากจะรบกวนคุณหมอช่วยให้คำปรึกษาและแนะนำการดูแลตัวเองด้วยคับ ผมเครียดมากจริงๆ ขอบคุณมากๆเลยคับ

ปล.ผมมีเซ็กกับรุ่นน้องคนนี้ครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ตค. 2557 คับ และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตค. 2557 ที่ผ่านเป็นครั้งที่ 2 คับ (ทั้ง2 ครั้งไม่เคยมีการสอดใส่แต่อย่างใดคับ)

http://haamor.com/media/images/webboardpics/50e3b-17275.jpg

 

ขอบคุณคับ

อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 62 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.97 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Tari*****u

29 ตุลาคม 2557 21:04:52 #2

รายงานอาการคับ ตอนนี้ต่อมน้ำเหลืองที่คอข้างซ้ายกับใต้คางข้างซ้ายบวมขึ้นมาด้วยคับ เจ็บนิดเดียวแต่ถ้าไม่เอามือไปจับก็ไม่เจ็บคับ อยากให้คุณหมอซักคนเข้ามาช่วยตอบเร็วๆจังคับ เข้าใจว่าคุณหมอในห้องนี้อาจจะยุ่งหรือยังไล่ตอบไม่ครบทุกคน ถ้ายังไงก็รบกวนด้วยนะคับ ผมเครียดมากเลยคับ ขอบคุณคับ

Haamor Admin

(Admin)

30 ตุลาคม 2557 04:51:38 #3

ถึง คุณ 50e3b

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 50e3b ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 50e3b ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

31 ตุลาคม 2557 02:52:15 #4

การที่มีพฤติกรรมเสี่ยงแบบรักร่วมเพศ มีโอกาสที่ติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิส รวมทั้งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ในกรณีของคุณที่มีอการต่อมน้ำเหลืองโตที่ขาหนีบ คอและคาง แสดงว่ามีการอักเสบของเชื้อซึ่งอาจเป็นได้ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสอื่นๆ รวมทั้งการติดเชื้อเอดส์ด้วย ซึ่งอาการของการติดเชื้อเอดส์คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง แนะนำว่าให้ตรวจเลือด ส่วนเรื่องแผลที่บรเวณขาหนีบน่าจะเป็นจากการแพ้หรือการเกาซึ่งถ้าไม่มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น ก็น่าจะค่อยๆดีขึ้นหรืออาจใช้ยาทาแก้แพ้ เช่น betamethasone ทาบางๆเช้าเย็น ไม่น่าใช่โรคแผลริมอ่อนครับ

Anonymous

5 พฤศจิกายน 2557 20:36:28 #5

ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยคับ เช้าวันที่ 31 ที่คุณหมอมาตอบ อาการผมหายดีหมดแล้ว ผมเลยไม่ได้เข้ามาอ่านอีกเลยจนกระทั่งเมื่อกี๊คับ เลยเพิ่งมาเห็นว่าคุณหมอตอบแล้ว ส่วนเรื่องอาการข้างเคียงของเอดส์ที่คุณหมอกล่าวมานั้น ไม่ได้เกิดขึ้นกับผมเลยนะคับ แต่ยังไงผมก็จะไปตรวจเลือดเพื่อความปลอดภัยอยู่ดีคับ ขอบคุณคุณหมอมากเลยคับ