กระดานสุขภาพ

เพศสัมพันธ์ตอนมีประจำเดือน
Anonymous

28 ตุลาคม 2557 23:55:18 #1

ดิฉันมีประจำเดือนวันที่ 3 แล้ว มีเพศสัมพันธ์ แต่ใส่ถึง แต่ถุง แตก ค่ะ แต่แฟนยังไม่เสร็จนะค่ะ แล้วก็ใส่ถุงอีกรอบ คราวนี้ไม่รั่ว หรือแตกค่ะ พอวันรุ่งขึ้น ประจำเดือนดิฉันมีน้อยมาก แทบจะไม่มีเลยค่ะ แบบนี้จะท้องมั้ยค่ะ ประจำเดือนมาไม่ค่อยปกติ แต่รอบเดือนครั้งนี้ เกิน 26 วัน น่าจะเปนประจำเดือนอ่ะค่ะ กังวล กลัวท้องมากเลยค่ะ

อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.70 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

30 ตุลาคม 2557 04:46:41 #2

ถึง คุณ e745c

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ e745c ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ e745c ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

31 ตุลาคม 2557 18:01:36 #3

หากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ตรงรอบดี วันที่มีเพศสัมพันธ์นั้นอยู่ในช่วงหลัง 7 วันหลังจากมีประจำเดือนวันแรก ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ไม่มีการตกไข่ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงนี้ จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ แต่หากมีช่วงที่มีประจำเดือนพอดี จะทำให้ฝ่ายหญิงมีโอกาสที่จะติดเชื้อหรือมีการอักเสบในอุ้งเชิงกรานได้ง่าย เนื่องจากในช่วงนี้เยื่อบุโพรงมดลูกกำลังลอกตัวออกมา ทำให้มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่ายครับ ดังนั้น หมอคิดว่า ควรให้ประจำเดือนน้อยลงเสียก่อน เช่น ให้พ้น 2-3 วันหลังประจำเดือนวันแรกไปก่อน และ ไม่จำเป็นต้องทานยาอะไรเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์หรือโรคอะไรนะครับ แต่ในกรณีที่มีลักษณะประจำเดือนมาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอนั้น จะทำให้คาดเดาการตกไข่เป็นไปได้ยากครับ และหากในการมีเพศสัมพันธ์นั้นใช้ถุงยางอนามัยแล้วมีปัญหา ขาด รั่ว หรือ ปริแตก การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ

Anonymous

1 พฤศจิกายน 2557 02:14:48 #4

ถุงยางขาดก็จริงแต่ หนูรีบใส่ใหม่อีกอัน เพราะยังไม่ได้หลั่งอ่ะค่ะ แบบนี้ โอกาสท้องยังมีอยุ่มั้ยค่ะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

2 พฤศจิกายน 2557 04:13:11 #5

ในช่วงที่มีสอดใส่อวัยวะเพศนั้น ก็จะมีอสุจิออกมาในช่วงนี้แม้จะน้อยแต่ก็ทำให้ตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น หากในช่วงสอดใส่อวัยวะเพศมีถุงยางขาดไปหรือรั่วไปแล้ว ก็จะมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้แม้จะน้อยครับ