กระดานสุขภาพ

รบกวนคุณหมอท่านใดก็ได้ค่ะ
Litt*****g

30 ตุลาคม 2555 05:00:33 #1

รบกวนถามคุณหมอหน่อยค่ะ ปกติดิฉันเป็นคนประจำเดือนมาปกตินับรอบทุก 28 วัน ตรงตลอด ครั้งล่าสุดมาเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2555 เมื่อลองคำนวณดูวันไข่ตกก็ประมาณวันที่ 12 ตุลาคม ก็ปฏิบัติการกับแฟนไป พอครบกำหนดวันที่ประจำเดือนจะมา คือวันที่ 25 ตุลาคม ปรากฏว่าประจำเดือนยังไม่มา พอวันที่ 27 ก็ยังไม่มาอีกเลยไปซื้อแผ่นตรวจมาลองตรวจปัสสาวะดู ปรากฎว่าผลเป็นลบ ผ่านไป 5 วันแล้วจนถึงเมื่อวานนี้วันที่ 5 (ที่เลยกำหนดประจำเดือน) ก็ปรากฎว่ามีเลือดออกมาแต่มีลักษณะเป็นเลือดใสๆ แทนที่จะมีลักษณะเข้มเหมือนประจำเดือนปกติ แล้วก็ออกกระปริบกระปรอยไม่ออกเยอะเหมือนตอนมีประจำเดือน แล้วก็ไม่ได้ปวดท้องตลอดเวลาเหมือนเป็นประจำเดือนด้วย รู้สึกปวดตุ๊บๆ เป็นบางครั้งบางคราว อ่อนเพลีย เข้าห้องน้ำบ่อย ไม่ทราบว่าดิฉันป่วยหรือปล่าวคะ แบบว่าเป็นเนื้องอกในมดลูกหรือเป็นซีส เป็นมะเร็ง หรือปล่าว กังวลใจมากเลยค่ะ จะได้รีบหาทางรักษา เพราะ ดิฉันอยากมีลูกมากๆ แต่ถ้าตรวจไปแล้วผลเป็นลบ แถมประจำเดือนมาแปลกๆ แบบนี้ กลัวจังเลยค่ะ ทำยังไงดีคะ

 

 

อายุ: 33 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 57 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

30 ตุลาคม 2555 09:01:05 #2

หากตรวจการตั้่งครรภ์ทางปัสสวะแล้วเป็นผลลบ หมอคิดว่ารอบนี้ไม่ตั้งครรภ์แน่นอนครับ และ ไม่ใช้ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์หรือแท้งแน่นอน เพราะหากมีการตั้งครรภ์แม้มีปัญหาการแท้ง การตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงนี้ก็ต้องเป็นบวกครับ ส่วนเลือดออกมาครั้่งนี้หมอคิดว่าเป็นเลือดประจำเดือน การที่เลือดประจำเดือนครั้งนี้มีลักษณะกะปริดกะปรอยนั้น อาจเกิดจากมีสภาวะบางอย่างที่รบกวนฮอร์โมนที่จะมาเปลี่ยนเยื่อบุมดลูกให้เป็นประจำเดือน เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนน้อย ออกกำลังกายหนัก ได้รับยาฮอร์โมนบางชนิด เป็นต้น ส่วนจะเป็นเนื้องอก ติ่งเนื้อ อะไรที่ผิดปกติในตัวมดลูกหรือในโพรงมดลูกนั้น อาจต้องมาตรวจภายในหรืออัลตราซาวด์ดูครับ

 

ดังนั้นหากมีความต้องการมีบุตร และพยายามมาเกิน 1 ปีแล้ว หรือ มีอาการเช่น ปวดท้องประจำเดือนมาก เลือดออกผิดปกติอีก หมอแนะนำให้มาปรึกษาสูตินรีแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขภาวะดังกล่าว ซึ่งอาจพบสาเหตุที่ทำให้มีลูกยากได้ครับ

Litt*****g

30 ตุลาคม 2555 10:09:11 #3

ขอบพระคุณ คุณหมอมากนะคะ ค่อยโล่งอกไปทีค่ะ  ไว้พยายามใหม่ ส่วนตัวแล้วเป็นคนสุขภาพแข็งแรงดีค่ะ ไม่ได้รับประทานยาหรือวิตามินหรือฮอร์โมนอะไร ไม่ได้เครียดเพราะถ้าไม่สบายใจก็เอาธรรมะเข้าข่ม สวดมนต์อย่างเดียว

อยากรบกวนสอบถามคุณหมอเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ น้ำเชื้อแฟนอ่อนน่ะค่ะ มีวิธีธรรมชาติช่วยโดยยังไม่ต้องพึ่งการแพทย์มั๊ยคะ

 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

30 ตุลาคม 2555 13:16:51 #4

อาจต้องทราบก่อนครับ น้ำเชื้ออ่อน ในความหมายของคุณ littlepig นั้นหมายถึงอะไร ถ้าไม่มีอสุจิเลย นี่อาจต้องทำใจว่าไม่สามารถมีลูกด้วยกันได้ หรือ ถ้าจะมีได้ต้องหาสาเหตุอย่างละเอียดของสามีนะครับ แต่หากมีตัวอสุจิแต่ปริมาณน้อย หรือ รูปร่างผิดปกติ เป็นต้น อาจต้องดูว่าผิดปกติมากน้อยเพียงใด ถ้าอยู่ในเกณฑ์ที่พอมีบุตรได้ ก็ไม่ต้องใช้วิธีทางการแพทย์ช่วย อาจเพียงนับวันตกไข่ และ พักผ่อนให้เพียงพอ หรือ อาจใช้วิธีทางการแพทย์เล็กน้อยคือ การเตรียมอสุจิของสามีให้มีคุณภาพขึ้นภายนอกร่างกาย แล้ว ฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงในช่วงที่มดลูกและรังไข่พร้อมต่อการปฎิสนธิและฝังตัวครับ วิธีนี้เรียกว่า การฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูก intrauterine insemination (IUI) ครับ

Litt*****g

31 ตุลาคม 2555 02:38:23 #5

จำนวนอสุจิมีน้อยค่ะ ส่วนรูปร่างแปลกหรือไม่นี่ไม่ทราบค่ะ แฟนเค้าเคยตรวจมาก่อน แต่ว่าเค้าเคยมีบุตรกับภรรยาเก่าหนึ่งคนนะคะ ก็เลยคิดว่าน่าจะยังพอมีหวังน่ะค่ะ การรับประทานยารักษาเกี่ยวกับเกล็ดเลือดนี่จะส่งผลด้วยมั๊ยคะ แฟนเป็นโรคเกล็ดเลือดเยอะน่ะค่ะ ขอรบกวนอีกทีนะคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

31 ตุลาคม 2555 16:04:27 #6

หากประวัติเคยมีบุตรได้ก็น่าจะพอบอกได้ว่า อสุจิ มีคุณภาพและปริมาณที่สามารถมีบุตรได้ แต่ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้นะครับ อาจไปสัมผัสสิ่งแวดล้อม ทานยา ทำให้คุณภาพเปลี่ยนไปได้ อาจต้องตรวจน้ำเชื้อใหม่

ส่วนโรคประจำตัวที่กล่าวมา หมอไม่แน่ใจนะครับว่าทานยาอะไร แต่ปกติที่หมอทราบ การรักษาโรคนี้อาจได้รับยา แอสไพริน ซึ่งจะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกร็ดเลือดที่มากนั้นจับกันเป็นลิ่มเลือดไปอุดตันเส้นเลือด หรืออวัยวะต่างๆ

ซึงมีรายงานว่า ถ้าหากทานยาตัวนี้ในปริมาณที่มากกว่า 50 มิลลิกรัมต่อสัปดาห์ จะส่งผลทำให้คุณภาพของน้ำเขื้อต่ำลง หากเป็นยากลุ่มอื่นเช่น hydroxyurea หรือ hydroxycarbamide นั้น เป็นยาในกลุ่มกดภูมิ ยับยั้งการสร้างเซลล์ต่างๆ ดังนั้นมีผลต่อการสร้างน้ำเชื้ออย่างแน่นอนครับ

ดังนั้น ถ้าแต่งงานเกิน 1 ปีแล้ว มีความต้องการมีบุตรมากและยังไม่มี ผมแนะนำให้สามีไปตรวจน้ำเชื้อครับ ถ้าผิดปกติ จะได้มีวิธีช่วยให้มีบุตรได้อย่างเหมาะสมครับ