กระดานสุขภาพ

คุณหมอครับรบกวนหน่อยครับ
Anonymous

27 ตุลาคม 2557 14:36:47 #1

แฟนผมมีประจำเดือนครั้งล่าสุดวันที่ 29 กันยายน ซึ่งรอบเดือนที่ผมจดให้แฟนไว้อยู่ที่ 24 วัน(นับจากประจำเดือนวันแรกจนถึง 1 วันก่อนประจำเดือนครั้งถัดไปมา) ปกติแฟนไม่เคยจดไว้ แต่สองครั้งหลังนี้จดไว้ครับ เรามีการสอดใส่โดยไม่ได้ป้องกัน ประมาณวันที่ 9-10 ตุลาคม แต่ไม่เสร็จคือเข้าออกอยู่สักพัก หลังจากสองวันนั้นใส่ถุงยางตลอด

 

หากเป็นตามคำนวน แฟนผมควรมีประจำเดือนมาวันที่ 23 ตุลาคม แต่ว่ามาจนถึงตอนนี้ วันที่ 27 ตุลาคม เลยมา 5 วันแล้วครับยังไม่มาเลย แฟนผมตอนนี้มีสิวขึ้น(เหมือนกับรอบเดือนครั้งก่อนๆ) แต่ที่เธอบอกว่าไม่เคยเป็นมาก่อนคือ หากโดนหัวนมแล้วจะเจ็บครับ ก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งสัปดาห์มีอาการคัดตึง แต่ตอนนี้คัดตึงหายครับแต่เจ็บหัวนมตอนโดน มีตกขาวสีเหลืองอ่อนๆครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติมคือช่วงหนึ่งเดือนของรอบเดือนนี้มีสอบอยู่ครับ แฟนอาจเครียดหรือเปล่าไม่รู้ แต่เราก็กลัวว่าจะท้องครับ รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำหน่อยครับ

อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.28 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

27 ตุลาคม 2557 14:56:50 #2

เพิ่มเติมครับ อาการตกขาวไม่มีอาการคัน

 

และช่วงหนึ่งถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการไปออกกำลังกายและช่วงเย็นทานแค่น้ำเต้าหู้อยู่ประมาณ 5 วัน ซึ่งไม่เคยออกกำลังกายและลดข้าวเย็นอย่างนี้มาก่อนครับ

Anonymous

28 ตุลาคม 2557 07:57:18 #3

ล่าสุดตรวจด้วยปัสสาวะแบบไหลผ่านไม่พบตั้งครรภ์ครับ แต่ว่าตรวจตอนบ่ายไม่รู้ว่าผลแบบนี้วางใจได้ไหมครับ

Anonymous

29 ตุลาคม 2557 11:59:25 #4

วันนี้ลองตรวจตอนเช้า ก็ไม่พบว่าตั้งครรภ์ครับ แต่ประจำเดือนยังไม่มา รบกวนคุณหมอแนะนำหน่อยครับ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

30 ตุลาคม 2557 03:33:56 #5

ในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่ไม่ได้ป้องกันนั้น และ มีการสอดใส่อวัยวะเพศ แม้จะไม่ได้หลั่งด้านใน ก็จะมีอสุจิออกมาในช่วงนี้แม้ในปริมาณที่น้อยแต่ก็อาจทำให้ตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น หากมีประจำเดือนขาดหายไปจากวันที่ควรจะมาแล้วไม่มา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

ซึ่งหากตรวจออกมาแล้วปกติ ไม่ตั้งครรภ์ เรื่องประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป หรือ ประจำเดือนไม่มา ขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ส่วนอาการต่างๆนั้น อาจเป็นเพียงอาการของอาการก่อนจะมีประจำเดือนเท่านั้นครับ และหากตกขาวลักษณะดังกล่าวนั้น มีลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ