กระดานสุขภาพ

รบกวนคุณหมอตอบหน่อยนะคะ
Anonymous

24 ตุลาคม 2557 18:25:58 #1

คือการมี พสพ แบบไม่ได้มีการสอดใส่แม้แต่น้อย เพียงแต่สัมผัสกันแต่ภายนอกแล้วมีน้ำหล่อลื่นออกมา โดนบริเวณปากช่องคลอดนั้น สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้หรือไม่ ?

แล้วถ้ากรณีที่ไม่มีการสอดใส่เลยเช่นกัน แต่น้ำอสุจิได้มาโดนบริเวณปากช่องคลอด(แค่ข้างนอกเท่านั้น) แล้วรีบไปล้างด้วยน้ำปะปา+เช็ดทิชชู่จนแห้ง กรณีนี้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ ? แล้วถ้าหลังจากนั้นได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินตามเวลาที่ถูกต้องแล้ว จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ในการมี พสพ ลักษณะนี้ได้รึเปล่า?

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 169ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.61 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

24 ตุลาคม 2557 18:39:50 #2

ใครผ่านไปผ่านมา มีความรู้ทางด้านนี้ ช่วยตอบหน่อยน้าา 

Anonymous

25 ตุลาคม 2557 13:41:42 #3

คุณหมอจะเข้ามาตอบเมื่อไหร่หรอคะ ? รอคำตอบอยู่นะคะ ไม่อยากกังวลอีกแล้ว

K11*****1

25 ตุลาคม 2557 16:46:55 #4

ไม่ตั้งครรภ์แน่นอนครับ ปรกติการตั้งครรภ์ น้ำอสุจิจะต้องมีความแข็งแรง มีปริมาณมากพอ ครับ กรณีของคุณ ยังไม่มีการสอดใส่เลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องกังวลเลยครับบ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

25 ตุลาคม 2557 18:09:05 #5

หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ ซึ่งไม่จำเป็นต้องทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินเลยครับ แต่หากทานไปแล้วก็ไม่เป็นอะไรครับ ซึ่งยานี้อาจทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่มีก็ไม่ได้เป็นอาการแสดงของการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ

Anonymous

26 ตุลาคม 2557 01:51:48 #6

ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ :)

แม้จะมีการหลั่งอสุจิ(เล็กน้อย) ซึ่งไปโดนแถวๆปากช่องคลอด แล้วรีบล้างน้ำออก ก็ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะหมอ 

Anonymous

26 ตุลาคม 2557 16:29:39 #7

คุณหมอคะ เกิดข้อสงสัยค้ะ

ประจำเดือนมาไม่เคยตรงกันเลยค่ะ ครั้งล่าสุดวันแรกมาวันที่ 12 ตุลา หมดวันที่ 17 ตุลาค่ะ แล้วมี พสพ กันเพียงถูไถ วันที่ 20 ตุลา แล้วฝ่ายหญิงมีน้ำหล่อลื่นออกมาจำนวนมาก(ชุ่ม) แล้วถ้าเกิดผู้ชายเผลอหลั่งอสุจิออกมาโดนบริเวณนั้น อย่างนี้น้ำหล่อลื่นพวกนั้นมันจะสามารถพาอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้ไหม ? เคยอ่านเจอมาว่ามันอาจสามารถช่วยให้อสุจิว่ายได้ จริงหรือเปล่าคะ ? กังวลมากค่ะ หลังจากนั้นวันที่ 21 ก็รีบทานยาคุมฉุกเฉินกันไว้ก่อน เม็ดแรกภายใน 72 ชม.แน่นอน เม็ดที่สอง ทานไปตอนที่ผ่านจากเม็ดแรกประมาน 10 ชม.ไม่เกิน 12 ชม.   จริงๆแล้วกรณีแบบนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่จะตั้งครรภ์ แต่ก็อดกังวลไม่ได้เลยค่ะ รบกวนคุณหมอพิจารณาคำถามอีกรอบนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ 

Anonymous

26 ตุลาคม 2557 16:30:47 #8

ที่บอกถูไถนั้น เพียงแต่ข้างนอกนะคะ ไม่มีการสอดใส่ใดๆทั้งสิ้น 

Anonymous

27 ตุลาคม 2557 15:35:41 #9

รอคำตอบอยู่นะคะ

Haamor Admin

(Admin)

28 ตุลาคม 2557 03:09:17 #10

ถึง คุณ 552c9

การตอบคำถามของทีมคุณหมอขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เนื่องจากอาจารย์แพทย์หลายๆท่านมีงานประจำในการดูแลผู้ป่วยเฉพาะหน้าก่อน คุณหมอบางท่านอาจติดภารกิจในบางครั้งไม่สามารถตอบในทันทีได้ และบางคำถามอาจต้องรอหลายวันหน่อย ดังนั้นหากรอได้ทุกคำถามมีคำตอบให้แน่นอนนะคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 ตุลาคม 2557 08:43:16 #11

อย่างที่หมอกล่าวไป หากไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์อย่างแน่นอนครับ และ อสุจิไม่สามารถจะเข้าไปในช่องคลอดได้เองนะครับ ส่วนรอบประจำเดือนที่มาผิดปกติ ไม่มาตามรอบนั้น เกิดจากผลของยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนะครับ และ หากประจำเดือนไม่มา ขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

Anonymous

29 ตุลาคม 2557 12:08:11 #12

คุณหมอคะ หนูรู้สึกตัวร้อน แต่ไม่มีอาการปวดท้องหรืออะไรนะคะ หรือที่หนูเป็นอยู่เกิดจากความเครียด กังวลคะ หนูนอนไม่ค่อยหลับ และคิดมากเป็นอาทิตย์แล้วค่ะ เป็นไปได้ไหมที่อาการตัวร้อนรุมๆ ปวดหลังนิดหน่อย จะมาจากความเครียด 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

31 ตุลาคม 2557 04:45:34 #13

ปกติแล้วอาการที่เกิดจากความเครียด นอนไม่เพียงพอ ปวดหลังต่างๆนี้ พออธิบายได้และเป็นไปในกลุ่มอาการเดียวกันครับ แต่ปกติแล้วจะไม่น่ามีไข้หรือตัวร้อนนะครับ ดังนั้น สาเหตุของมีไข้นั้น อาจเกิดจากการติดเชื้อหรือเป็นไข้หวัดก็ได้และส่งผลทำให้มีอาการต่างๆครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากมีอาการไข้ยังมีอยู่ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ