กระดานสุขภาพ

ขอคำปรึกษาทีนะคะ เครียดมากๆคะ
Anonymous

28 ตุลาคม 2555 09:55:11 #1

คือว่าประจำเดือนของหนูเดือนกันยายนมาวันที่25คะ หนูเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ตรงกัน แต่ก็คลาดเคลื่อนไม่เยอะคะ แล้วในปีนี้หนูไม่เคยมีเดือนไหนที่มาหลังจากวันที่25เลยคะ คือว่าวันนี้วันที่28เดือนตุลาคมประจำเดือนของหนูก็ยังไม่มาเลยคะ ซึ่งตั้งแต่หนูมีประเดือนวันที่25ของเดือนกันยายนหนูก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับแฟนเลยคะ มีแค่ไปเที่ยวทะเลวันที่19เดือนตุลาคมคะ คือตอนหลังเล่นน้ำแล้วก็ไปอาบน้ำด้วยกันพออาบน้ำเสร็จแฟนหนูเค้าก็ทำให้หนูเสร็จโดยการที่นำอวัยวะเพศชายขึ้นอยู่ระหว่างท้องของหนูกับแฟนแล้วให้ของหนูถูๆกับไข่ของเค้าอะคะมันก็มีน้ำหยดลงมา หนูไม่แน่ใจว่ามันจะทำให้หนูท้องได้รึป่าว แต่แฟนหนูบอกว่าน้ำที่หยดลงมาก็เป็นน้ำตอนที่อาบน้ำคะ หนูก็เลยไม่ได้คิดอะไร แ้ล้วจนวันนี้ประจำเดือนของหนูก็ยังไม่มาเลยคะ วันที่26ตุลาคมหนูกังวลมากเลยตรวจด้วยที่ตรวจปัสสาวะก็ขึ้นว่าไม่ท้องคะ จนวันนี้28ตุลาคมแฟนหนูจะต้องไปต่างจังหวัด หนูก็เลยมีเพศสัมพันธุ์กันครั้งนึงคะแต่แฟนใส่ถุงคะ ทุกครั้งที่หนูมีเพศสัมพันธุ์กันแฟนหนูใช้ถุงทุกครั้งเลยคะ หนูเลยอยากถามว่าทำไมประจำเดือนของหนูถึงไม่มาคะ? แล้วการกระทำของหนูเสี่ยงที่จะท้องมั้ยคะ? ขอบคุณมากๆนะคะ

อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

28 ตุลาคม 2555 09:59:34 #2

หนูขอเพิ่มอีกนิดนะคะ คือว่าตั้งแต่หลังจากวันที่หนูไปเที่ยวทะเล หนูก็มีอาการเจ็บหัวนมคะ ไปโดนนิดนึงก็เจ็บเลยคะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หายเลยคะ แล้วก็มีอาการเจ็บเต้านมด้านข้างทั้ง2ข้างด้วยคะ ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกับการตั้งครรภ์รึปล่าวคะ

Anonymous

28 ตุลาคม 2555 10:20:39 #3

หนูขอเพิ่มอีกเรื่องนึงนะคะ วันนี้ตอนที่หนูมีเพศสัมพันธุ์กับแฟน ตอนที่แฟนเริ่มสอดใส่ หนูรู้สึกแสบในอวัยวะเพศมากๆเลยคะ อยากจะทราบว่าจะเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ด้วยรึปล่าวคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 ตุลาคม 2555 08:41:18 #4

หากการมีเพศสัมพันธ์นั้นไม่ได้มีการสอดใส่และหลั่งด้านในแล้ว แทบจะไม่มีโอกาสตั้งครรภ์เลยครับ และการใส่ถุงยางอนามัยก็ป้องกันได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ตรวจการตั้งครรภ์แล้วเป็นผลลบ ก็เชื่อได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์แล้วครับ


ส่วนอาการเจ็บบริเวณเต้านมทั้งสองข้าง หมอคาดว่าเป็นอาการหนึ่งของอาการก่อนมีประจำเดือน ซึ่งมักจะมีอาการ อึดอัดท้อง ท้องอืด ทานเยอะ เป็นสิว ตึงเต้านม เป็นต้นครับ ดังนั้นหมอแนะนำให้ลองดูอาการและประจำเดือนก่อนได้ ประจำเดือนเลื่อนได้เล็กน้อย จากความเครียด กังวล พักผ่อนไม่พอ ได้ครับ และประจำเดือนไม่จำเป็นต้องมาวันเดิมนะครับ สำคัญว่ามาเป็นรอบ ระยะห่างสม่ำเสมอ อาจ 28 วัน หรือ 35 วันก็ได้ แต่สำคัญคือมาสม่ำเสมอ ไม่มีผิดปกติระหว่างรอบสำคัญกว่าครับ

Anonymous

29 ตุลาคม 2555 09:43:17 #5

ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะ แต่วันนี้ประจำเดือนของหนูก็ยังไม่มาเลยคะ แล้ววันนี้ก็ครบ35วันที่เป็นระยะห่างของรอบเดือนจากวันที่ประจำเดือนมาวันแรกของเดือนที่แล้วด้วยคะ ไม่ทราบว่ารอบเดือนแต่ละรอบมันจะมีเกิน35วันด้วยรึปล่าวคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 ตุลาคม 2555 11:07:43 #6

โดยปกติลักษณะประจำเดือนที่ปกตินั้นจะมีประมาณ 3-4 วัน โดยจะเป็นมากวันทีี่สอง แต่ไม่ควรเกิน 7 วัน ส่วนระยะระหว่างรอบนั้นแตกต่างกันไปครับ บางคนอาจสั้นเพียงแค่ 21 วัน บางคนอาจห่างได้ถึง 5-6 สัปดาห์ ระหว่างรอบไม่ควรมีเลือดออก สิ่งที่สำคัญคือคำว่า สม่ำเสมอ ดังนั้น จะห่างเท่าไรไม่เป็นไรขอให้มาสม่ำเสมอ แต่หากรอบนี้ดูห่างกว่าปกติ สาเหตุส่วนใหญ่ในอายุวัยนี้ นอกจากการตั้งครรภ์ คือ สาเหตุทางด้านอารมณ์ที่หมอกล่าวไป การออกกำลังกายหนัก การได้รับยาฮอร์โมนหรือยาบางชนิด สาเหตุพวกนี้มีผลต่อการทำงานของรังไข่ในการสร้างออร์โมน ดังนั้น หากไม่ตั้งครรภ์ หมอแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ประจำเดือนก็จะเอง แต่หากประจำเดือนไม่มานานเกิน 3 เดือนและมีกะปริบกะปรอย ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์ครับ

Anonymous

29 ตุลาคม 2555 11:19:15 #7

สบายใจขึ้นหน่อยแล้วคะ ขอบคุณมากๆนะคะ

Anonymous

29 ตุลาคม 2555 12:34:50 #8

คุณหมอคะ ขอถามอีกนิดนะคะ คือว่าช่วงนี้ปัสสาวะมักมีสีเหลืองคะ แล้วเมื่อวานที่มีเพศสัมพันธุ์ก็เกิดอาการแสบตอนที่แฟนได้เริ่มสอดใส่รู้สึกแสบในอวัยวะเพศมากๆเลยคะ แล้วเมื่อกี้ไปเข้าห้องน้ำปัสสาวะก็มีสีเหลืองแล้วก็มีตกขาวออกมาเยอะคะแต่เป็นตกขาวสีเหลืองๆอ่าคะ ไม่ทราบว่าเป็นผลมาจากอะไรหรอคะ จะเกี่ยวกับตั้งครรภ์หรือใช้ถุงยางอนามัยหรือปล่าวคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 ตุลาคม 2555 15:05:08 #9

ปัสสวะสีหลืองนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากน้ำในร่างกายที่จะออกมาเป็นปัสสวะถูกดูดกลับที่ไตเยอะขึ้น ทำให้ปัสสวะออกมาปริมาณจะน้อยลงและมักจะมีสีเข้ม สาเหตุมักเกิดจากตื่มน้ำน้อย ร่างกายเสียเหงื่อมาก อาการร้อน เป็นต้น และอีกสาเหตุที่สำคัญคือ กระเพาะปัสสวะติดเชื้อ ซึ่งมักจะมีอาการปัสสวะแสบ ขัด ปวดท้องบริเวณหัวหน่าวได้ ดังนั้น ช่วงนี้หมออยากให้ทานน้ำมากขึ้น รักษาความสะอาด อาการก็จะดีขึ้นครับ

 

ส่วนตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นอับๆ เล็กน้อยนั้น พบได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะหากใช้ถุงยางอนามัย หรือ มีการหลั่งด้านใน เพราะ สารหล่อลื่นจากถุงยาง และ น้ำอสุจิที่หลั่งหลั่งด้านใน ทำให้ความเป็นกรดในช่องคลอดเสียไป ทำให้มีสารคัดหลั่งจากช่องคลอดลักษณะเปลี่ยนไป จึงเห็นเป็นตกขาวสีเปลี่ยนไปได้ ดังนั้นอาจสังเกตอาการก่อนได้ ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ครับ แต่ถ้าหากอาการตกขาวมีลักษณะเขียวเหลือง กลิ่นเหม็นมากคล้ายปลาเน่า มีเลือดปน นั้นเป็นสิ่งที่ผิดปกติ ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาครับ

 

ส่วนอาการแสบขณะสวดใส่มักเกิดจากช่องคลอดแห้ง หรือมีการระคายเคืองภายในช่องคลอดครับ สาเหตุก็เป็นเหตุผลอย่างที่หมอกล่าวไปข้างต้น ช่วงนี้หมอแนะนำให้งดเพศสัมพันธ์ก่อนครับ รอจนประจำเดือนมาก่อน และวางแผนคุมกำเนิดอาจเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดก็ได้ครับ

Anonymous

30 ตุลาคม 2555 11:40:31 #10

คุณหมอคะ แล้วเมื่อเช้าหนูปัสสาวะเป็นสีเหลืองบวกกับอุจจาระด้วย พอมองอีกทีน้ำปัสสาวะก็มีฟองเต็มเลยคะ ไม่ทราบว่ามันจะอันตรายหรือปล่าวคะ แล้วจะเกี่ยวกับการตั้งครรภ์หรือประจำเดือนมั้ยคะ ขอบคุณคุณหมออีกทีนะคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

31 ตุลาคม 2555 06:10:19 #11

ปกติสีของปัสสาวะจะเป็นสีเหลืองอ่อน ซึ่งเป็นของเสียที่เกิดขึ้นในร่างกายและไตจะขับออกจากร่างกายผ่านทางท่อปัสสาวะ ประกอบด้วยยูเรีย กรดยูริก แอมโมเนีย เกลือนินทรีย์ต่างๆ โดยปกติปัสสาวะควรจะไม่พบฟองใดๆ สาเหตุของการปัสสาวะเป็นฟอง เช่น


  1. ปัสสาวะอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเบ่งหรือพยายามปัสสวะออกให้เร็ว ประกอบกับ ปริมาณปัสสวะน้อยจากการดื่มน้ำน้อย ทำให้ปัสสวะมีความเข้นข้นหรือความหนาแน่นมากกว่าน้ำในชักโครก ทำให้ตีผิวน้ำทำให้เกิดฟองได้
  2. มีโปรตีนรั่วออกมาทางปัสสวะ ปกติไม่ควรมีโปรตีนรั่วออกมาจากไต แต่หากมีการติดเชื้อที่เนื้อเยื่อไต (glomeruli) การทานอาหารจำพวกโปรตีีนมากๆ หรือ อาการเริ่มๆของภาวะไตเสี่อมในผู้สูงอายุหรือผู้ที่เป็นเบาหวาน
  3. ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ อาการปัสสาวะเป็นฟองเป็นส่วนหนึ่งในของการติดเชื้อทางเดินปัสสวะ จากการทำลายเยื่อบุทางเดินต่างๆของเชื้อโรค มักจะมีอาการแสบ ขัด เวลาปัสสวะ หรือ ปัสสวะมีสีแดงร่วมด้วย
  4. คนที่มีโรคเบาหวานและโรคนิ่วในไต อาจพบปัสสาวะเป็นฟองหลังจากปัสสาวะได้

 

ดังนั้นคุณ 2b688 อายุ 17 ปี หมอคิดว่าอาจเป็นเพียงการทานน้ำน้อย หรือ ปัสสวะติดเชื้อเท่านั้น สาเหตุอื่นๆ ที่หมอกล่าวไปมักพบในผู้สูงอายุครับ ดังนั้นอาการนี้มักจะเป็นอยู่ไม่นาน แต่หากมีอาการเช่นนี้เป็นสัปดาห์หรือเดือน ควรปรึกษาแพทย์ครับเพื่อรับการตรวจโปรตีนในปัสสาวะ และอื่นๆเพื่อหาสาเหตุปัสสาวะเป็นฟอง และ สาเหตุนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และประจำเดือนนะครับ