กระดานสุขภาพ

กังวลเรื่อง แฟนผมจะท้องรึเปล่า แฟนผมเครียดมากครับ
Zaq1*****4

21 กันยายน 2557 16:08:48 #1

        คือว่า ผมกับแฟนมีอะไรกัน เป็นครั้งแรกของทั้งคู่ ผมได้สอดใส่เข้าไป2ครั้ง ครั้งแรกคือ ผมสอดเข้าไปแต่ว่าเข้าไปนิดเดียว เวลาประมาณไม่ถึงนาที แล้วถอดออก พอครั้งที่2ผมสอดเข้าไปใหม่ซักพักประมาณไม่ถึงนาทีเหมือนกัน แฟนผมบอกว่าเจ็บผมเลยหยุดแล้วถอดออก ผมไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย แน่ใจว่าไม่ได้หลั่ง แต่น้ำหล่อลื่นของผู้ชายผมไม่แน่ใจ มีอะไรกันประมาณวันที่ 13 กันยายน แล้วตอนนี้คือวันที่21 กันยายน ประจำเดือนของแฟนผมยังไม่มา ไม่มีอาการตกขาวเลย เดือนที่แล้วประจำเดือนมาประมาณวันที่ 18 สิงหาคม แต่แฟนผมเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ตรงกันในแต่ละเดือนอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่มีอาการของคนที่ประจำเดือนจะมา มีแค่อาการรู้สึกว่าเต้านมใหญ่ขึ้น และรอบหัวนมมีสีเคล้ำขึ้น แต่ได้มีการซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจแล้วหนึ่งครั้งในเช้าวันที่ 21 กันยายน ผลคือ ไม่ท้อง แต่กังวลว่าเครื่องตรวจอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่จะตรวจเจอได้ มีความเครียดเป็นอย่างมาก จึงอยากขอรบกวนให้ทางหมอช่วยตอบคำถามหน่อยครับ ว่ามีโอกาสที่ท้องหรือไม่มากแค่ไหน? สาเหตุอาการต่างๆเกิดจากอะไร? ควรจะปฏิบัติอย่างไร?  แฟนผมเป็นคนที่คิดมากและมีอาการเครียดมากจริงๆครับ รบกวนตอบคำถามหน่อยนะครับ อาการอื่นๆที่ละเอียดกว่านี้ผมไม่แน่ใจครับ ผมจะเข้ามาดูตลอดครับ ขอบคุณครับ

อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 67 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.65 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

25 กันยายน 2557 02:47:26 #2

ในช่วงที่สอดใส่อวัยวะเพศ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านใน ก็จะมีอสุจิออกมาในช่วงนี้แม้ในปริมาณที่น้อยแต่ก็อาจทำให้ตั้งครรภ์ได้ แต่หากสอดใส่เพียงเล็กน้อยเช่นนี้ โอกาสของการตั้งครรภ์นั้นต่ำมากๆ อย่างไรก็ตาม ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยนะครับ ซึ่งควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ แต่หากเดิมประจำเดือนไม่ตรงรอบ อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็ได้ครับ และ ในการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งต่อๆไป ควรป้องกันให้ดีกว่า นี้เช่น สวมถุงยางอนามัยก่อนสอดใส่อวัยวะเพศนะครับ

จากประวัติมีลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และอาการกะปริดกะปรอยไม่ดีขึ้น มาไม่เป็นรอบก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

Zaq1*****4

25 กันยายน 2557 15:50:07 #3

ครับผม ขอบพระคุณมากครับ