กระดานสุขภาพ

รอยแดงที่อวัยวะเพศครับ
Anonymous

21 กันยายน 2557 07:26:16 #1

หลังจากมีเพศสัมพันธ์ อาทิตก่อนครับ เกิดรอยแดงที่อวัยวะเพศแต่สักพัก รอยจ้ำเแดงก้สีจางลงและไม่รุ้สึกอะไรครับ 

พอครั้งล่าสุดครับผมมีเพศสัมพัน รอยช้ำๆแดงก้กลับมา เปนแค่รอยแดงไม่นูนและไม่เจ็บครับ ผมอยากรบกวนให้คุณหมอช่วยวินิจฉัยให้หน่อนได้ไหมครั้บว่าเป็นอาการของโรคอะไรหรือป่าว หรือว่าเปนเพียง การเสียดสีที่ผิดท่่าครับ ขอบคุณมากครับ

อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 167ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.36 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

22 กันยายน 2557 11:04:43 #2

ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ มีคู่นอนคนเดียวและคู่นอนก็ไม่มีความเสี่ยง หรือใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ หรือสารหล่อลื่นในถุงยาง ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางก็อาจเป็นโรคติดต่อ ในกรณีนี้แนะนำหาหมอหรือถ่ายรูปชัดๆมาให้ดูก็ได้ครับ

Anonymous

23 กันยายน 2557 07:01:30 #3

อันนี้เป็นภาพถ่ายนะครับ ดูให้หน่อยครับ มันเป็นตรงส่วนบริเวณ หัวอะครับ 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/687cb-16123.jpg

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

24 กันยายน 2557 17:27:15 #4

ดูจากรูปเห็นเป็นแผลตื้นๆเล็กๆ มีน้ำเหลืองเล็กน้อย ถ้ามีความเสี่ยงคือ ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็อาจเป็นเริม ซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง อีกโรคที่ต้องนึกถึงคือแผลซิฟิลิส โดยเฉพาะถ้ามีการร่วมเพศแบบชายรักร่วมเพศ แผลจะไม่เจ็บ ในกรณีนี้แนะนำหาหมอ แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง คงเป็นการแพ้หรือระคายเคืองตามที่ได้ตอบไปแล้ว