กระดานสุขภาพ

ตกขาวผิดปกติ
Anonymous

19 กันยายน 2557 13:23:36 #1

มีอาการตกขาวไม่แน่ใจว่าเป็นสีอะไรค่ะ ดูไม่ค่อยออก เป็นเหลืองปนขาวปนเขียว ประมาณนี้มั้งคะเพราะสีมันอ่อนๆ 

แต่มันไม่ใช่สีขาว แน่นอน เมื่อเดือนก่อนมีเพศสัมพันธ์กับแฟน 2 ครั้ง ใส่ถุงยางด้วย ครั้งแรกแฟนซื้อไชต์เล็กเลยเปลี่ยนบ่อย และมีไม่สุดด้วย เพราะว่าครั้งแรกของหนู แต่พอมีอะไรเสร็จแล้วก็ตรวจดูถุงยางไม่มีรั่วไม่มีอะไรค่ะ ครั้งที่สองซื้อไซต์พอดี พอมาเดือนนี้ หนูมีอาการตกขาวแบบกลิ่นแรงมาก และมีสีแปลกๆ มีอาการคันยิบๆ แต่ว่าคันไม่แรงค่ะ คันเป็นระยะๆ แสบขาหนีบมาก แต่ไม่คันที่ขาหนีบนะคะ หรือเป็นเพราะว่าหนูอ้วนขึ้น หรือว่าใส่กางเกงวอมแล้วเหงื่อออก 

กังวลว่าจะติดเชื้ออะไรหรือเปล่า หรือว่าหนูท้องงง T^T 

อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 53 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.06 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

21 กันยายน 2557 01:41:58 #2

จากอาการลักษณะดังกล่าวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้

การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในชื่อสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ ปกติแล้วจะหาย ไม่ค่อยดื้อยา แต่หากเป็นบ่อยๆ คือ ประมาณ 4 ครั้งต่อปีขึ้นไปนั้น มักจะพบได้บ่อยในผู้ที่ทานยาปฎิชีวนะนานๆทานยากดภูมิคุ้มกัน ทานยาประเภทสเตียรอยด์ สตรีตั้งครรภ์ หรือ วัยหมดประจำเดือนครับ หากในวัยช่วงอายุ 20-40 ปี มักจะสัมพันธ์กับความอับชื้นบ่อยๆ เป็นเวลานานๆครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ

Anonymous

21 กันยายน 2557 06:17:59 #3

ไม่ท้องใช่ไหมคะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

25 กันยายน 2557 02:36:42 #4

คือ ลักษณะอาการนี้นั้น ไม่ได้เป็นอาการแสดงของอาการตั้งครรภ์นะครับ ไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งหากมีประวัติมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง ไม่ได้ป้องก้น และมีประจำเดือนหายไป ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะครับ