กระดานสุขภาพ

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือป่าวคับ
Anonymous

18 กันยายน 2557 04:49:21 #1

ผมเป็นชายรักชายคับ ช่วง ตุลาคม ปี 56 เคยเท้องผูกแล้วเวลาถ่ายอุจจาระแข็งจนมีแผลปริรอบ ๆ ขอบทวารหนักคับ ซื้อยาสำหรับรักษาแผลริดสีดวงมาทาแล้วก็หายไป จนมาช่วงเดือนมีนาคม 57 มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก 1 ครั้ง แต่คู่นอนไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน และพบว่าขอบทวารหนักมีแผลปริ 2 แผล ตอนนั้นใช้ยาทารักษาจนหาย แล้วก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลยจนมาเดือนมิถุนายน มีเพศสัมพันธ์ทางทาวารหนักกับคู่นอน ปรากฎว่ามีอาการแสบมากในช่องทวารหนักระว่างร่วมเพศจนไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย ต่อจากนั้นก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักเลย และมาพบติ่งเนื้อ พร้อมกับอาการแสบเวลาอุจาระคับ เคยไปหาหมอที่รพ.แห่งหนึ่งแล้ว แต่หมอบอกว่าไม่ได้เป็นริสีดวง อาจเกิดจากการอักเสบของเส้นเลือดดำบริเวณขับทวารหนัก แล้วก็ไม่ได้ตรวจในส่วยอื่นต่อ อยากเรียนถามคุณหมอคับ จากรูปที่ผมส่งให้ดูคับ ว่าติ่งเนื้อที่เห็นเป็นโรคอะไร แล้วสามารถรักษาได้อย่างไรคับ ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับคำปรึกษาครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/87ed6-16058-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/87ed6-16058-2.jpg
อายุ: 28 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 169ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.41 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

19 กันยายน 2557 17:36:40 #2

การที่มีการสอดใส่ทางทวารหนักโดยไม่ใช้ถุงยาง ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อสูง จากประวัติและจากรูปที่ส่งมา พอจะอธิบายได้ดังนี้

1. มีส่วนที่เป็นริดสีดวงด้วย

2. มีส่วนที่เป็นแผลซึ่งอาจเกิดจากการอักเสบจากการที่มีริดสีดวง อุจจาระแข็งหรืออาจเป็นโรคติดต่อ เช่น เริม หรือแผลซิฟิลิส

3. ติ่งเนื้อที่เห็นสีออกดำ มีขนาดเล็ก น่าจะเป็นหูดหงอนไก่ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อไวรัส Human papillomavirus (HPV) รักษาโดยใช้ยา podophyllin จี้ โดยแพทย์หรือพยาบาล อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมณ 4 อาทิตย์ก็จะหลุด หรืออาจใช้เลเซอร์หรือจี้ด้วยไฟฟ้า

แนะนำหาหมอกามโรคหรือระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ และควรจะตรวจเลือดเอดส์ ซิฟิลิส โดยใช้สิทธิ์ที่มี เช่น บัตรทอง หรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะจากการศึกษาพบว่าชายรักร่วมเพศมีโอกาสที่จะติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิสสูงกว่าชายทั่วๆไปหลายเท่า