กระดานสุขภาพ

มีปัญหาน่าสงสัยค่่ะ คุณหมอช่วยวินิจฉัยให้ทีค่ะ
Karn*****e

10 กันยายน 2557 18:46:36 #1

คือว่าเมื่อเดือน กรกฎาคม ดิฉันมีเพศสัมพันธ์แต่ป้องกันโดยใส่ถุงยาง แต่ถุงยางแตกค่ะ เลยทานยาคุมฉุกเฉิน

หลังจากนั้น ประจำเดือนรอบถัดมาก็มาค่อนข้างปกติ คือทุกทีจะมาประมาณวันที่3-8 แต่หลังจากทานยาคุมฉุกเฉินไปก็มาวันที่6 ส.ค. ประจำเดือนมาเยอะกว่าปกติ แต่ไม่ได้มากมายจนผิดสังเกตค่ะ ก็เลยนึกว่าไม่มีปัญหาอะไรค่ะ หลังจากนั้นก็มีเพศสัมพันธ์อีกแต่ใส่ถุงยาง ป้องกันตลอดค่ะ สังเกตแล้วว่าไม่มีรอยรั่วหรือฉีกขาด แต่มาวันนี้วันที่ 11 ก.ย. แล้วอ่ะค่ะ ประจำเดือนเดือนนี้ยังไม่มาเลยค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นอะไรหรือเปล่าคะ  แล้วก็ ช่วงนี้ดูเหมือนตกขาวเยอะค่ะ เหมือนมีน้ำไหลๆแต่ไม่มีสี ไม่ใช่ประจำเดือนอ่ะค่ะ 

 

แล้วขอถามอีกคำถามค่ะ คือว่าดิฉันท้องผูกบ่อยค่ะ เลยทาน *** ถ้าทานไปนานๆจะทำให้ลำไส้ขับถ่ายไม่ได้หรือเปล่าคะ 

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

11 กันยายน 2557 03:00:01 #2

ถึง คุณ karnniie

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ karnniie ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

12 กันยายน 2557 16:06:48 #3

หากในการมีเพศสัมพันธ์แล้วใช้ถุงยางอนามัยแล้วมีปัญหา การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

โดยปกติแล้วหลังทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีสารคัดหลั่งในช่องคลอดได้เล็กน้อยครับ แต่จะไม่ถึงกับเป็นตกขาว ดังนั้น หากตกขาวลักษณะดังกล่าวนั้น มีลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ