หมอขอตอบโดยสรุปดังนี้นะครับ

1. จากประวัติทั้งหมดนั้น หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์นะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น หากตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ ซึ่งจากผลตรวจ ถือว่า น่าเชื่อถือครับ ว่าไม่ตั้งครรภ์ ส่วนอาการต่างๆนั้น หมอคิดว่า เป็นอาการก่อนจะมีประจำเดือนนะครับ และ ประจำเดือนน่าจะมาใน 1 สัปดาห์นี้ครับ

2. การคำนวณวันตกไข่นั้น จะใช้ได้แม่นยำในคนที่มีประจำเดือนสม่ำเสมอนะครับ ซึ่งการคำนวณจะต้องคำนวณจากระยะระหว่างรอบประจำเดือน โดยจะนับจากวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมาย้อนไป 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน เช่น หากรอบเดือนประมาณ 30 วัน และวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมาเป็นวันที่ 30 ดังนั้นวันที่ตกไข่ ก็จะเป็นวันที่ 16 เป็นต้น ส่วนในกรณีนี้ ประจำเดือนวันแรกนั้นวันที่ 27 กรกฎาคม หากคาดว่าประจำเดือนจะมาวันที่ 27 สิงหาคม วันที่ตกไข่จะอยู่ในวันที่ 13 สิงหาคม โดยประมาณ ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้าและหลังวันนี้ 2 วัน คือ ช่วง 11 - 15 สิงหาคม จะเป็นช่วงที่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้สูงครับ

3. โดยปกติแล้ว ถุงยางอนามัยนั้น ไม่ได้ขาด หรือ รั่วได้ง่ายๆนะครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ