กระดานสุขภาพ

จะท้องมั้ยค่ะ
Ash*****h

3 กันยายน 2557 05:17:55 #1

คือว่าวันที่ 16 สค มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบหลั่งนอกค่ะ ผ่านมาได้ 1 อาทิตย์มีอาการเหมือนคนท้องเลยค่ะ เลยไปซื้อยาสตรีมากิน รุ่งขึ้นอีกวันมีเลือดออกมาคะ เป็นสีแดงสด บางทีก้สีเหมือนยาที่ทานไป มีเกือบเต็มผ้าอนามัยวันแรกค่ะ วันต่อๆไปก็เต็มแคร์ฟรี มีเลือดออกอยู่ 3-4วันคะน้อยลงเรื่อยๆ อยากทราบว่าเลือดที่ออกมาเปนเลือดประจำเดือนหรือเลือดล้างหน้าเด็กคะ แล้วเลือดออกมาแล้วจะมีโอกาสท้องไหมค่ะ

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 162ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.29 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Ash*****h

3 กันยายน 2557 09:24:01 #2

เพิ่มเติมนะคะ หนูกินยาสตรีไปวันที่ 25 สค ค่ะแลัววันที่ 26 สค ก้มีเลือดออกมา มีพอดีผ้าอนามัยวันแรก วันที่2และ3 มีประมานแผ่นแคร์ฟรีค่ะ ละก็น้อยลงเรื่อยๆ เลือดที่ออกมาเป็นลิ่มๆตลอดเลยอะคะ ตามปกติแล้วหนูต้องมีรอบเดือนประมานวันที่ 28 สค อะคะ เป็นคนรอบเดือนมาปกติทุกเดือนนะคะ แต่เดือนนี้เลือดมันออกน้อยกว่าที่เคยมีอะคะ พอมีเลือดออกมาอาการที่เหมือนคนท้องก็หายไปหมดเลยค่ะ เป็นเพราะช่วงก่อนหน้านี้หนูเครียดมากด้วยรึป่าวค่ะ เลยทำให้ทุกอย่างในร่างกายรวนไปหมดเลย รบกวนตอบด้วยนะคะหนูเครียดมากค่ะเพราะไม่รู้ว่าเป็นเลือดประจำเดือนหรือเลือดล้างหน้าเด็ก

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

5 กันยายน 2557 09:27:38 #3

ในช่วงที่สอดใส่อวัยวะเพศ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านใน ก็จะมีอสุจิออกมาในช่วงนี้แม้ในปริมาณที่น้อยแต่ก็อาจทำให้ตั้งครรภ์ได้นะครับ ซึ่งควรจะทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินจะเหมาะสมกว่าครับ ส่วนคำว่า เลือดล้างหน้าเด็กนั้น (Implantation bleeding) ในทางการแพทย์คือ เลือดที่ออกจากการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฎิสนธิของอสุจิและไข่ บริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ในช่วงหลังตกไข่ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือ หลังประจำเดือนรอบสุดท้ายประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นเลือดออกจางๆ ปริมาณเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ผิดปกติอะไรครับ แต่ปัญหาอาจทำให้สับสนว่า เป็นเลือดประจำเดือนที่มาผิดปกติหรือไม่ ซึ่งการแยกอาจดูจากลักษณเลือดออก หรือ อาจตรวจปัสสวะในช่วงวันที่ประจำเดือนขาดไปประมาณข่วง 4 สัปดาห์หลังประจำเดือนรอบสุดท้าย หากเป็นผลบวกหรือตั้งครรภ์ ก็ถือว่าเป็น เลือดล้างหน้าเด็กครับ

ส่วนการทานยาในกลุ่มที่กล่าวมานั้น ซึ่งตามความเห็นของหมอแล้ว ยาที่กล่าวมานั้นมีตัวยาเป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่อาจมีส่วนผสมของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนผู้หญิง (Phytoestogen) ซึ่งการควบคุมปริมาณของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น หรือ มาเพื่อป้องกันไม่ให้ตั้งครรภ์นั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ เนื่องจากมีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลต่อทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ และ อาจยังทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก กะปริดกะปรอยได้อีกด้วย ดังนั้น ในความเห็นของหมอ หมอคิดว่า ไม่ควรทานยาประเภทนี้เพื่อการรักษาเรื่องประจำเดือนผิดปกตินะครับ เพราะ นอกจากจะไม่รักษาที่สาเหตุแล้ว ยังอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นใหม่นั้น เกิดจากอะไร

ดังนั้น ในความคิดเห็นของหมอ หมอแนะนำให้หยุดยาที่กล่าวมาก่อนนะครับ และ ลองสังเกตอาการผิดปกติดู หากประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ ไม่สม่ำเสมอ กะปริดกะปรอยอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ ส่วนอาการของการตั้งครรภ์นั้น หากรอบที่มีเพศสัมพันธ์นั้น ทำให้ตั้งครรภ์จริง ก็ยังไม่มีอาการอะไรทั้งนั้นครับ