กระดานสุขภาพ

จะรักษาอย่างไรครับ
Anonymous

1 กันยายน 2557 18:03:12 #1

ที่ปลายอวัยวะเพศ และเนื้อเยื้อหนังด้านใน มีอาการคัน ต้องทายาเชื้อราอยู่ตลอด ถ้าไม่ทายา จะเกิดอาการคันมาก และจะทำให้ปลายและผิวหนังด้านในจะมีสีขาวซีดๆ คลายเหมือนโดนน้ำร้อนลวก หรือโนนแช่น้ำนานๆ เวลามีเพศสัมพันธ์ เนื้อจะถลอก มีแผลฉีกขาดได้ทันที่ และถ้าขาดยานอน จะอักเสพ เป็นสีขาวซีดๆบวมๆ กินยาแก้เชื้อรา ทายาแก้เชื้อราก็ยงไม่หายขาดสักที่ทำยังไงดีครับ

อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.88 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

2 กันยายน 2557 10:59:11 #2

ถึง คุณ 9f90d 

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 9f90d ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 9f90d ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

Anonymous

3 กันยายน 2557 13:13:05 #3

ช่วยตอบด้วยครับคุณหมอ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 กันยายน 2557 14:41:03 #4

ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ หรือสารหล่อลื่นในถุงยาง ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ (ห้ามใช้สบู่ยาหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เพราะจะทำให้เป็นมากขึ้น) ทายาที่มีส่วนผสมของาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนัง แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่นร่วมเพศโดยไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจเป็นโรคติดต่อ เช่นแผลเริม เป็นต้น