กระดานสุขภาพ

ตกขาวสีน้ำตาล มานานมากจะท้องมั้ย
Aity*****3

15 สิงหาคม 2557 18:21:46 #1

ตกขาวสีน้ำตาลคืออะไรค่ะ แล้วจะท้องมั้ย?

-คือหนูมีประจำเดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน วันที่เท่าไหร่ไม่รู้ รู้แค่ว่าวันที่ 20กว่าๆ แต่หนูเป็นประจำเดือน 7 วันพอเดือนกรกฎาคา หนูมีอะไรกับแฟน 2 ครั้งแล้วประจำเดือนก็ไม่มา เป็นกังวลมากค่ะ เครียดมาเลยค่ะ หนูก็กินยาสตรีเข้าไป  -พอเดือน สิงหาคมหนูมีเหมือนตกขาว  แต่มันเป็นสีน้ำตาล มาได้ประมาน 6วันแล้ว มีกลิ่นด้วยค่ะ  มันคืออะไรค่ะ อันตรายมั้ยค่ะ?  แล้วหนูจะท้องมั้ย??  ตอนนี้หนูเครียดมากเลยค่ะ  ช่วยหนูด้วยนพะค่ะ

อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 162ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.05 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

18 สิงหาคม 2557 13:40:56 #2

ในเรื่องแรกที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ หากมีประวัติการมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงและมีประจำเดือนขาดหายไป ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์นั้น หากตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ ส่วนหากตรวจการตั้งครรภ์แล้วปกติ สาเหตุอื่นๆในช่วงอายุนี้ที่ทำให้ประจำเดือนผิดปกติมักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และอาการกะปริดกะปรอยไม่ดีขึ้น มาไม่เป็นรอบก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ส่วนการทานยาในกลุ่มที่กล่าวมานั้น ซึ่งตามความเห็นของหมอแล้ว ยาที่กล่าวมานั้นมีตัวยาเป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่อาจมีส่วนผสมของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนผู้หญิง (Phytoestogen) ซึ่งการควบคุมปริมาณของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ เนื่องจากมีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลต่อทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ และ อาจยังทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก กะปริดกะปรอยได้อีกด้วย ดังนั้น ในความเห็นของหมอ หมอคิดว่า ไม่ควรทานยาประเภทนี้เพื่อการรักษาเรื่องประจำเดือนผิดปกตินะครับ เพราะ นอกจากจะไม่รักษาที่สาเหตุแล้ว ยังอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นใหม่นั้น เกิดจากอะไร ดังนั้น ในความคิดเห็นของหมอ หมอแนะนำให้หยุดยาที่กล่าวมาก่อนนะครับ และ ลองสังเกตอาการผิดปกติดู หากประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ ไม่สม่ำเสมอ กะปริดกะปรอยอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

ส่วนในเรื่องตกขาวนั้น หากตกขาวมีลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ