กระดานสุขภาพ

กินยาคุมฉุกเฉินก่อนวันตกไข่1วัน
Unja*****i

15 สิงหาคม 2557 15:12:09 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ มีเรื่องรบกวนสอบถามค่ะ  ดิฉันมีประจำเดือนวันที่ 28กค 57 - 1สค 57 วันที่ 11สค มีเพศสัมพันธ์ สวมถุงยางอนามัย แต่ถุงยางแตก ไปพบตอนสุดท้ายค่ะ กังวลใจมาก ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ตอนนี้ เลยซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน กินห่างกัน12ชม ตามคำแนะนำของเภสัชกรค่ะ หลังจากครบ 2 เม็ด ปรากฎว่าวันที่ 13 มีมูกใสออกมา เหมือนแป้งเปียก ปั้นก้อนได้ แต่มีครั้งเดียว ตอนนี้ กินยามา 4 วันแล้วยังไม่มี เลือดออกมาเลยค่ะ จะตั้งครรภ์ไหมคะ กังวลใจ ขอบคุณอย่างสูงค่ะ

อายุ: 33 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.36 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

18 สิงหาคม 2557 13:45:26 #2

ในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

ส่วนในเรื่องของตกขาวนั้น หากตกขาวออกมามีลักษณะคล้ายกาว หรือ นมโยเกิร์ต หรือ แป้ง นั้น ส่วนใหญ่แล้ว เป็นลักษณะของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และ มักจะมีอาการคันร่วมด้วย แต่หากยังไม่มีอาการอะไร อาจเป็นการติดเชื้อแรกๆได้ ซึ่งการรักษา จะต้องรักษาด้วยการใช้ยาเหน็บช่องคลอด อาจใช้ยาที่ชื่อสามัญว่า clotrimazole ซึ่งเป็นยาเหน็บทางช่องคลอดครับ ระหว่างนี้ งดเพศสัมพันธ์ รักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงความอับชื้น ไม่สวนล้างช่องคลอด เป็นต้นครับ ส่วนปริมาณ การใช้ยา และ วิธีการสอดยา อาจลองปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาได้ครับ หากรักษาแล้ว ไม่ดีขึ้น ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจน เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เพราะที่หมอกล่าวไป เป็นเพียงการคาดเดาจากอาการเท่านั้นครับ

Unja*****i

19 สิงหาคม 2557 17:00:10 #3

ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีเลือดอะไรมาเลย กังวลใจจัง  

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

22 สิงหาคม 2557 06:54:44 #4

อย่างที่หมอกล่าวไป การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ