กระดานสุขภาพ

เรียนคุณหมอ ยาวหน่อยนะค่ะ แต่กังวลจริงๆรบกวนช่วยตอบหน่อยค่ะ
Anonymous

7 สิงหาคม 2557 12:51:25 #1

ต้องบอกก่อนว่าดิฉันทานยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ดจนหมดแผงมาได้ 3 แผงแล้วค่ะ แต่พอเริ่มแผงที่ 4 ดิฉันเริ่มช้าไปประมาณ 3-4 วัน (ด้วยความไม่รู้พอนึกได้ก็เริ่มทานตั้งแต่วันที่นึกได้มาวันละเม็ดจนครบแผงค่ะ) ปกติหลังหมดแผงแล้วประมาณ 3 วัน ปจด.ก็จะมา แต่ในแผงที่ 4 นี้ดิฉันทานเลทคาดว่า ปจด.ก็คงมาเลทตาม แต่ก็ทานจนหมดแผงในวันที่ 16 ก.ค.ค่ะ (ถ้าเป็นตามคาด ปจด.ก็น่าจะมาประมาณวันที่ 20 ก.ค.)  

#แต่บังเอิญว่าดิฉันมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในครั้งแรกวันที่ 17 ก.ค. (หลังทานหมดแผง 1 วัน) ด้วยความกังวลใจและไม่มั่นใจเพราะแผงนี้ทานเลทจึงทานยาคุมฉุกเฉินเข้าไป หลังมีเพศสัมพันธ์ตรงตามเวลาที่คู่มือบอกทุกอย่างค่ะ หลังจากนั้นพบว่ามีเลือดออกมาเยอะและคล้ายประจำเดือนในวันที่ 22 ก.ค.เป็นวันแรก (ทราบว่ายาฉุกเฉินจะทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน) ดิฉันต้องการคุมกำเนิดต่อ จึงเริ่มทานยาคุมกำเนิดปกติแบบ 21 เม็ดแผงที่ 5 เม็ดแรกในวันที่ 22 ก.ค.นี้ค่ะ แล้วพบว่าเลือดนั้นออกมาแค่ 2 วันแล้วก็หมดไป ( 22-23 ก.ค.) จึงไม่แน่ใจว่าเลือดจากอะไรกันแน่ค่ะ...และที่มาแค่ 2 วัน เพราะเริ่มทานยาคุมกำเนิดด้วยหรือเปล่าค่ะ?

#แล้วหลังจากนั้นดิฉันก็มีเพศสัมพันธ์บ้างแบบใส่ถุงยางป้องกันตลอด จนมาถึงวันที่ 27 ก.ค. (วันที่ 6 นับจากวันแรกที่เริ่มทานยาคุมปกติ) ดิฉันได้มีเพศสัมพันธ์โดยใช้วิธีการหลั่งข้างนอก และดิฉันก็ไม่ได้ทานยาคุมฉุกเฉินเพราะทราบว่าทานบ่อยไม่ดี จึงค่อนข้างกังวลมากค่ะ (แต่ระหว่างนี้ก็ทานยาคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่องอยู่ค่ะ) อยากทราบว่าจากที่เล่ามานี้จะเสี่ยงตั้งครรถ์ไหมค่ะ(มากน้อยแค่ไหน)? แล้วถ้าอยากลองซื้อที่ตรวจปัสสาวะมาตรวจควรเริ่มตรวจได้วันไหนค่ะ?

ป.ล.ตอนนี้เครียดทุกวันเลยค่ะเพราะมีตกขาวสีผิดปกติด้วยตั้งแต่มี พสพ. และกลัวทานยาคุมหมดแผงแล้ว ปจด.จะไม่มาตามที่คาด จากกรณีแบบนี้ ปจด.ควรมาประมาณช่วงไหนได้บ้างค่ะคุณหมอ? 

อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.78 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

10 สิงหาคม 2557 14:07:23 #2

ในเรื่องแรก คือ การทานยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนั้นที่ทานล่าช้าไปเล็กน้อย ถือว่า ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดนะครับ ซึ่งไม่จำเป็นต้องทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินเลยครับ ส่วนในเรื่องเลือดที่ออกมานั้น เป็นเลือดที่น่าจะออกมาเป็นรอบปกติหลังจากหยุดยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนพอดีครับ และ หากทานต่อตามปกติตามรอบต่อไปนั้น เลือดก็จะออกน้อยลง จากผลของฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาคุมกำเนิดในรอบใหม่นั้นเองครับ ดังนั้น หมอคิดว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจการตั้งครรภ์นะครับ และ ไม่ตั้งครรภ์ครับ

ส่วนในเรื่องตกขาวนั้น โดยปกติแล้วหลังทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีสารคัดหลั่งในช่องคลอดได้เล็กน้อยครับ แต่จะไม่ถึงกับเป็นตกขาว ดังนั้น หากตกขาวลักษณะดังกล่าวนั้น มีลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

Anonymous

11 สิงหาคม 2557 17:57:31 #3

เรียนคุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ

ในส่วนของตกขาวนั้น มีลักษณะเป็นสีเขียวอ่อนค่ะ (บางครั้งก็เขียวเหลืองอ่อน) ช่วงแรกที่เป็นคันเล็กน้อยบริเวณปากช่องคลอด แต่ไม่มีกลิ่นเหม็นค่ะ หลังจากใช้ยาเหน็บแบบ 5 วัน อาการคันก็หายไป และตกขาวออกมาน้อยลง จนถึงปัจจุบัน(ไม่ได้ใช้ยาใดๆเพิ่ม) ยังมีตกขาวอยู่แต่ไม่ค่อยเลอะชั้นในค่ะ จะไหลออกมาแบบรู้สึกได้ หรือเลอะชั้นในเล็กน้อยเฉพาะเวลาที่ปวดปัสสาวะ หรืออุจจาระแล้วยังไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำทันที พอไปเข้าก็จะพบว่ามีออกมาให้เห็นชัดเจนค่ะ โดยปกติก็จะไม่คัน แต่สังเกตว่าจะมีคันบ้างนานๆทีถ้าบริเวณนั้นอับชื้น หรือมีตกขาวคั่งอยุ่ตรงปากช่องคลอดค่ะ กรณีแบบนี้จะเป็นอะไรร้ายแรงไหมค่ะคุณหมอ (เคยมีเลือดปนเล็กน้อยด้วยค่ะ แต่เป็นครั้งคราว นานๆทีประมาณ 3-4 ครั้ง ซึ่งดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการมี พสพ. จนเลือดออก, ภายในอักเสบไม่ปกติเป็นโรค, เลือดตกค้าง หรือเลือดจากผลกระทบยาคุมฉุกเฉินที่เคยทานกันแน่ค่ะ) 

 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

13 สิงหาคม 2557 17:51:19 #4

จากอาการลักษณะดังกล่าวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ และหากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ

ดังนั้น หากที่เหน็บยาไปแล้วแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ครบ 7 วันนะครับ อาจทำให้การรักษานั้น ไม่หาย หรือ ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร อย่างไรก็ หมอแนะนำหากอาการไม่ดีขึ้น กลับมามีอาการใหม่ ก็ควรรักษาโดยการเหน็บยาใหม่อีกครั้งให้ครบนะครับ หากอาการไม่ดีหลังการรักษา ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายในนะครับ

Anonymous

15 สิงหาคม 2557 14:04:31 #5

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากค่ะคุณหมอ 

Anonymous

21 สิงหาคม 2557 05:50:06 #6

รบกวนสอบถามคุณหมอเพิ่มเติมหน่อยค่ะ หลังจากทานยาคุมแผงที่ 5 นี้ครบแล้วในวันที่ 11 ส.ค. พบว่าในวันที่ 14 เรืมมี ปจด.ออกม่าสีน้ำตาลคล้ำๆแห้งๆแต่น้อยค่ะ และวันที่15 มีเยอะขึ้นแบบรู้สึกได้ว่าไหลแต่ก็น้อยกว่าที่เคย และมีลักษณะแดงปนน้ำตาล พอวันที่ 16 ก็น้อยลงลักษณะเหมือนวันแรก แล้วก็หมดค่ะ อยากทราบว่า

1.แบบนี้ผิดปกติ และเสี่ยงตั้งครรภ์ไหมค่ะ (แต่รอบมาค่อนข้างตรงตามที่คาดค่ะ)

2.หลังจากเว้นไป 7 วันแล้วก็เริ่มทานเม็ดแรกของแผงต่อมาในวันที่ 19ส.ค. ตอนนี้ก็ทานมาได้ 2 วันแล้ว ถ้ามี พสพ. ในช่วงนี้หรือต่อๆไปมีประสิทธิภาพป้องกันได้เลยหรือเปล่าค่ะ(เพร่าะก่อนหน้านี้เคยทานยาคุมฉุกเฉิน แล้วเริ่มแผงยาคุมปกติแผงถัดมาในวันที่เลือดออกตามที่เคยเล่าไปค่ะไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบอะไรไหม)

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

22 สิงหาคม 2557 07:03:30 #7

จากที่กล่าวมา เลือดที่ออกมานั้น หมอคิดว่า เป็นเลือดที่ควรจะออมาตามปกติที่ควรจะเป็นอยู่แล้วนะครับ และ การในเรื่องของการทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ ยาจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันแล้วครับ

Anonymous

23 สิงหาคม 2557 09:55:47 #8

ขอบคุณค่ะคุณหมอ

ระหว่างที่ทานยาคุมอยู่นี้ ไม่ว่าจะช่วงไหนก็คือไม่มีไข่ตกใช่หรือไม่ค่ะ? สงสัยค่ะว่าช่วงที่เว้น 7 วันให้ ปจด.มาจะมีไข่ตกหรือไม่ อยากทราบกลไก การตกไข่ในระหว่างที่ทานยาคุมค่ะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

25 สิงหาคม 2557 11:42:17 #9

โดยปกติในช่วงที่ทานยาในช่วงเริ่มต้นรอบเดือนใหม่นั้น จะเป็นการยับยั้งการตกไข่ซึ่งเริ่มตั้งแต่การพัฒนาของไข่ทำให้ไม่มีการตกไข่ครับ แต่เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะเจริญได้ตามปกติและมีประจำเดือนตามปกติได้จากผลของฮอร์โมนในเม็ดยาคุมกำเนิด และ ช่วงท้ายๆของยาคุมกำเนิด ก็จะไม่มีฮอร์โมน ส่งผลให้มีประจำเดือนออกมาในช่วงนี้ครับ ดังนั้น ตลอดการทานยาจะไม่มีการตกไข่เลยไม่ว่าจะช่วงใด หากทานยาคุมกำเนิดอย่างสม่ำเสมอ ถูกต้อง ตรงรอบดีครับ

Anonymous

1 กันยายน 2557 06:41:25 #10

ได้ความรู้ด้วย ขอบคุณค่ะคุณหมอ