กระดานสุขภาพ

เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
Anonymous

31 กรกฎาคม 2557 09:06:13 #1

คือว่าหนูเป็นประจำเดือนวันที่ 24 จากนั่้นวันที่ 25 หนูเริ่มทานยาคุมกำเนิด แบบ 21 วันค่ะ แล้วประจำเดือนก็หมดวันที่ 28 ของเดือนนี้นะคะ แล้วทีนี้หนูได้มีเพศสัมพันธ์วันที่ 30 โดยไม่มีการหลั่งในนะคะ ปรากฎว่า มีเลือดสีน้ำตาลออกมาไม่มากค่ะแค่ติดกางเกงชั้นใน แต่พอวันนี้ ยังมีเลือดสีน้ำตาลติดอยู่เหมือนเดิมค่ะ หนูกังวลมากเลย อยากทราบว่า เลือดที่ออกมา มาจากสาเหตุอะไรค่ะ แล้วมันเป็นอันตรายไหม หรือว่า หนูมีสิทธิ์จะตั้งครรภ์ไหมคะ (เดือนก่อนๆหน้นี้ประจำเดือนมาทุกเดือนนะคะ แล้วยาคุมกำเนิดหนูเคยทานมาแล้วค่ะ แต่หยุดทานไป 2 เดือน พึ่งมาเริ่มทานเดือนนี้ค่ะ) ช่วยให้คำปรึกษาด้วยนะคะ กังวลใจมากค่ะ

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.46 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

31 กรกฎาคม 2557 16:25:30 #2

ถึง คุณ b2227

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ b2227 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

3 สิงหาคม 2557 15:42:48 #3

ในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เริ่มทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ ส่วนเลือดที่ออกมานั้น อาจเป็นผลจากเลือดประจำเดือนที่อาจยังค้างอยู่เล็กน้อยเท่านั้นครับ ส่วนสาเหตุอื่นๆที่เป็นไปได้ของเลือดออกผิดปกติหลังจากการมีเพศสัมพันธ์นั้น มักมาจากความผิดปกติบริเวณปากมดลูกหรือช่องทางคลอดครับ อาจเป็นรอยโรคที่บริเวณปากมดลูก เช่น ติ่งเนื้อ (polyp) ปากมดลูกมีเนื้อเยื่อผิดปกติ เป็นต้นครับ ดังนั้น ควรมาตรวจภายในกับสูตินรีแพทย์นะครับ เพื่อจะได้หาสาเหตุครับ

Anonymous

5 สิงหาคม 2557 17:27:19 #4

ขอบคุณค่ะ