31 กรกฎาคม 2557 05:59:56 #1

คือเมื่อ 2 เดือนก่อน ผมมีเพศสัมพันธ์ทางด้านหลังกับแฟน แล้ว ถุงยางแตก ซึ่ง เป็นครั้งแรกของทั้งคู่(อันนี้ผมมั่นใจว่าอีกฝ่ายนึงยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนเพราะคบกันมานานมากๆ) แล้วหลังจากนั้นผมก็เจ็บหน่วงๆอัณฑะข้างขวา ผมก็ไปหาหมอ หมอบอกว่าผมเป็น ท่อหรือถุงน้ำเชื่ออักเสบ ผมก็กินยาตามที่หมอสั่ง จนครบผมก็กลับไปหาหมออีกเพราะมันยังไม่หายสนิท หมอก็ให้กินยาอีก ชุดนึง คือผมกินยาตรงตลอดนะครับ แล้วมันก็ยังไม่ค่อยหายสนิท ผมเลยไปหาหมออีกรอบเป็นครั้งที่ 3 หมอก็ตรวจดูบอกว่า ถุงน้ำเชื้อ หายแล้ว แต่เหมือนจะมีเส้นเลือดขอด นิดๆ หมอก็บอกไม่ต้องผ่าให้กินยา Cyclo3Fort ผมก็กินตามหมอสั่งก็ยอมรับว่าอาการก็ดีขึ้นใกล้หายแต่เวลาอัณฑะแข่งตัว หรือช่วยตัวเอง มันก็ยังตึงๆที่ ถุงอัณฑะข้างขวาอยู่นิดๆเหมือนยังไม่หายสนิท ผมก็เลยไปหาหมออีกครั้ง แล้วบอกอาการไป หมอก็ตรวจดูหมอก็บอกว่ามันมีน้อยมาก แล้วก็ให้ยาผม มาเหมือนเดิม แล้วก็บอกว่า  ถ้าไม่มีอาการปวดรุ่นแรงอ่ะไรก็ไม่มีปัญหาอ่ะไร ให้เปลี่ยนจากการเล่นเวท มาเป็นวิ่งหรือว่ายน้ำ แทน ซึ่งตอนนี้ยาที่กินอยู่ใกล้จะหมดแล้ว อาการของผมตอนนี้คือมันจะตึงๆเวลาช่วยตัวเองอยู่แล้ว จะมีแสบๆร้อนๆบบริเวณถุงอัณฑะข้าวขวาไปจนถึงขาหนีบ แต่ไม่รุนแรงมาก คือมันแค่รุ้สึกว่าข้างขวากับข้างซ้ายมันแตกต่างกันแค่นั้นอ่าครับ แต่เวลาเราไม่ได้สนใจมันมันก็จะไม่รุ้สึกอ่ะไร

ผมอยากทราบว่า ผมเป็นอ่ะไรอ่าครับ แล้วผม แล้วผมต้องซื้อ supporter มาใส่มั้ยครับ

*ปล.การตรวจกับหมอทุกครั้ง หมอตรวจถุงอัณฑะทุกครั้งนะครับ

*หลังจากมี เพศสัมพันธ์ครั้งนั้นก็ไม่มีอีกเลยครับ

1 สิงหาคม 2557 14:53:29 #2

7 สิงหาคม 2557 13:38:43 #3

9 สิงหาคม 2557 14:49:51 #4