กระดานสุขภาพ
ช่วยดูหน่อยครับว่าผมเป็นอะไร | |
---|---|
29 กรกฎาคม 2557 16:34:21 #1 http://haamor.com/media/images/webboardpics/0731c-14669.jpg คือว่าผมมีอาการเช่นนี้ครับก่อนหน้านั้นผมมีอาการตัวร้อนและปวดเมื่อยตามตัว (ไม่มีอาการปวดศีรษะใดๆ ) ผมทานยา ibuprofen400mg อาการก็ทุเลาลง และต่อมาเริ่มมีอาการระคายเคืองคอเจ็บคอนิดๆ (ผมเคยทานยานี้มาก่อนแล้วเมื่อตอนป่วยเป็นหวัดครั้งก่อนๆ ไม่มีอาการผิดปกติใดๆและยังรักษาอาการไข้ได้ผลกว่ายาพารา) แล้วต่อมาวันที่3 ผมล้างจู๋แล้วรู้สึกว่าแสบ เลยลองเปิดดู พบว่าเป็นแผลบางๆตรงซอกหลืบข้างๆเส้นสองสลึงครับ (ไม่มีตุ่มน้ำใดๆขึ้นก่อนหน้าหน้า เพราะก่อนหน้านั้นผมสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ผมก็จะเช็ดตรวจสอบดู ก็ไม่มีอาการหรือเจ็บแสบใดๆ และไม่มีอาการปวดแสบปวดร้อนใดๆ ไม่มีต่อมน้ำเหลืองโต) มันจะเกี่ยวกันไหมกับอาการที่ผมตัวร้อน เพราะผมสังเกตว่ามันเพิ่งจะมาเป็นแผลบางๆตอนที่ผมมีไข้ตัวร้อนในวันที่3 ก่อนหน้าหนั้นผมเคยเป็นแผลบริเวณนี้แล้วเนื่องจากการร่วมเพศอย่างรุนแรงทำให้เกิดแผลถลอกและติดเชื้อแบคทีเรีย และได้ทานยาRoxithromycin 150mg ร่วมกับรักษาความสะอาด แผลนั้นก็ได้หายไปอย่างดีครับ ปล. ไม่มีภาวะเสี่ยงใดๆครับ ทั้งผมและคู่นอน |
|
อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 176ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.98 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
29 กรกฎาคม 2557 16:49:52 #2 เพิ่มเติมครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ร่วมเพศกับผมมาสักระยะหนึ่งแล้วครับ แต่มีการช่วยตัวเองวันเว้นวัน แฟนผมเองก็ไม่มีอาการผิดปกติใดๆทั้งทางปากและร่างกายและอวัยวะเพศ อีกอย่างหนึ่งผมสังเกตตั้งแต่ที่ผมเคยเป็นแผลถลอกครั้งแรก ผมคิดว่าหนังหุ้มของผมมันมีซอกหลืบบางๆเยอะและมีหลายชั้น เวลาแข็งตัวเต็มที่หัวจะเปิดไม่หมด ต้องรูดเอาเอง(ขณะรูดไม่มีอาการเจ็บใดๆ) หมอคิดว่าผมควรไปขลิบไหมครับ เพื่อลดปัญหาการเกิดแผลซ้ำอีก ขอบคุณครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
31 กรกฎาคม 2557 15:09:11 #3 ดูจากรูป เห็นเป็นแผลเล็กๆตื้นๆ2 แห่ง ถ้าเคยมีประวัติเสี่ยงมาก่อนที่จะมีแฟนหรือเคยเป็นแผลมาก่อน ลักษณะแผลที่เห็นอาจจะเป็นเริม ที่คุณเล่ามาเคยเป็นแผลอักเสบจากร่วมเพศที่รุนแรงซึ่งในครั้งนั้นอาจะเป็นเริมครั้งแรก ในครั้งนี้อาจจเป็นเริมที่เป็นซ้ำโดยไม่จำเป็นต้องมีความเสี่ยง แต่จะเป็นไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่แน่ใจว่าไม่เคยมีความเสี่ยงมาก่อนรวมทั้งแฟนด้วย แผลที่เห็นก็อาจจะเกิดจากการเสียดสีก็ได้ ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอโรคผิวหนัง ส่วนเรื่องหนังหุ้มปลาย ถ้ายาวเกินไป หรือเวลาแข็งตัวไม่สมารถรูดหนังหุ้มหรือมีการรัดมาก ก็ควรขลิบ แนะนำหาหมอศัลยกรรมระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะครับ |
Anonymous |
31 กรกฎาคม 2557 15:18:37 #4 ขอบคุณมากครับคุณหมอ ว่าแต่ผมต้องรักษายังไงครับ แล้วต้องทานยาตัวไหนครับ |
Anonymous |
31 กรกฎาคม 2557 15:20:53 #5 สมมุติว่าหากผมเป็นเริม แล้วทำไมแฟนผมถึงไม่มีอาการผิดปกติใดๆเลยครับตั้งแต่คราวสมัยก่อนที่ผมเคยเป็นครั้งแรก ขอบคุณครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
1 สิงหาคม 2557 14:42:11 #6 เท่าที่ดูจากรูป แผลคล้ายเริม แต่ถ้ามั่นใจว่าคุณทั้งสองคนไม่เคยมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจเป็นแผลฉีกขาดจากการร่วมเพศ หรือการแพ้ หรือระคายเคืองสารที่ใช้ก็ได้ ในกรณีที่เป็นเริมให้ใช้ยากิน aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน สำหรับเรื่องการติดต่อนั้นโดยทั่วไปแล้ว จะติดต่อกันได้ง่ายขณะที่มีรอยโรค เช่น ตุ่มน้ำ หรือขณะที่มีแผล อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ประเทศอเมริกาพบว่า อาจพบเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งหรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศได้แม้ไม่มีอาการแสดงของตุ่มน้ำหรือแผล เป็นไปได้ว่าอาจมีแผลที่ปากมดลูก หรือในช่องคลอดหรือในท่อปัสสาวะซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก โดยพบประมาณ 10% ของจำนวนวัน คือใน 1 ปีอาจพบได้ 36 วัน ในขณะที่ถ้ามีรอยแผลจะพบ 21% คือ 77 วัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อเริมจากคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนแต่ไม่มีแผลก็เป็นไปได้แต่จะน้อยกว่าการติดเชื้อขณะที่มีตุ่มน้ำหรือแผล |
Anonymous