กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนไม่มา จะท้องไหม?? ช่วยตอบเร็วๆหน่อยนะค่ะ
Anonymous

17 กรกฎาคม 2557 02:05:51 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ คือว่าหนูจะปรึกษาเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ค่ะ คือหนูได้มีอะไรกับแฟนแล้วช่วงไข่ตกนะค่ะครั้งแรกเขาใส่ถุงยางนะค่ะ แล้วครั้งที่สอง เขาไม่ได้ใส่ถุงยาง แต่เขาได้เอาผ้าเช็ดตรงอวัยวะเพศของเขาแล้ว  แล้วหนูก้อเอาผ้าที่เขาเช็ดอวัยวะเพศของเขามาเช็ดอวัยวะเพศของหนูก่อนมีอะไรกัน แต่ก้อไม่หลั่งในนะค่ะ  แล้วเดือนนี้ประจำเดือนหนูยังไม่มาเรยค่ะ หนูเปนประจำเดือนของเดือนที่แล้วประมานวันที่ 14 มิถุนายนค่ะ แต่นี่ก็วันที่ 17 กรกฎาคมแล้วประจำเดือนยังไม่มาเรย หนูจะมีโอกาสท้องไหมค่ะ แล้วประมานกี่ % คะ หนูมีอะไรกับแฟนวันที่ 25 มิถุนายนค่ะ ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ หนูกังวลและคิดมาก มาเรย

อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 43 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

17 กรกฎาคม 2557 15:32:03 #2

ถึง คุณ 391c1

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 391c1 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

17 กรกฎาคม 2557 17:23:12 #3

ในช่วงที่สอดใส่อวัยวะเพศ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านใน ก็จะมีอสุจิออกมาในช่วงนี้แม้ในปริมาณที่น้อยแต่ก็อาจทำให้ตั้งครรภ์ได้ ซึ่งควรที่จะตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนะครับ ซึ่งการตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ

Anonymous

18 กรกฎาคม 2557 05:21:27 #4

ขอบคุณนะค่ะวันนี้หนูได้ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจแล้ว ผลออกมาคือไม่ท้องค่ะ แต่ทำไมประจำเดือนถึงไม่มาค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

19 กรกฎาคม 2557 15:48:12 #5

หากเดิมเป็นคนที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ประจำเดือนสามารถคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย แต่ จะไม่เกิน 1 สัปดาห์ครับ ซึ่ง ปัจจัยที่ทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไปนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ นอกเหนือจากการตั้งครรภ์ ก็มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ดังนั้น หากประจำเดือนขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์นะครับ

Anonymous

20 กรกฎาคม 2557 13:24:06 #6

จิงอย่างที่คุณหมอบอกเลยค่ะช่วงตั้งแต่ปิดเทอมมานี้ หนูจะนอนดึกตลอดเลยคือหนูจะชอบนอนตอนกลางวัน แล้วพอกลางคืนหนูก็นอนไม่หลับเลยทำให้นอนดึกกว่าจะนอนก็ตี 1-2 ค่ะ ติดต่อกันเป็นเดือนเลยคะ  แล้วพอหนูเห็นประจำเดือนเลื่อนหนูเลยซื้อยาสตรีมาทานค่ะ แต่ช่วง 3-4 วันมานี้ก็มีอาการตกขาวนะค่ะ แต่ประจำเดือนก็ไม่มาสักที แล้วหนูก็จะเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอนะคะ  แต่นี่มันก็เลื่อนมา 1 อาทิตย์แล้วนะค่ะประจำเดือนยังไม่มาเลยคะ มีเดือนนี้แหละคะที่มันเลื่อนนานแบบไม่เคยเป็นมาก่อนเลยคะ หนูจะเป็นโรคอะไรหรือป่าวค่ะ

Anonymous

20 กรกฎาคม 2557 13:27:25 #7

แล้ววันนี้เหมือนมีเลือดออกมาเลยคะ แต่มันออกมานิสสสสสสเดียวเหมือนตอนที่หนูเป็นประจำเดือนแล้ว และมันก็กำลังจะหมดเรยค่ะ  แต่ก็มีตกขาวตามมาอยู่ดีคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

23 กรกฎาคม 2557 08:55:18 #8

อย่างที่หมอกล่าวไป สาเหตุของประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ก็มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ ซึ่งหากมีการทานยาในกลุ่มที่กล่าวมานั้น ซึ่งตามความเห็นของหมอแล้ว ยาที่กล่าวมานั้นมีตัวยาเป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่อาจมีส่วนผสมของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนผู้หญิง (Phytoestogen) ซึ่งการควบคุมปริมาณของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ เนื่องจากมีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลต่อทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ และ อาจยังทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก กะปริดกะปรอยได้อีกด้วย ดังนั้น ในความเห็นของหมอ หมอคิดว่า ไม่ควรทานยาประเภทนี้เพื่อการรักษาเรื่องประจำเดือนผิดปกตินะครับ เพราะ นอกจากจะไม่รักษาที่สาเหตุแล้ว ยังอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นใหม่นั้น เกิดจากอะไร ดังนั้น ในความคิดเห็นของหมอ หมอแนะนำให้หยุดยาที่กล่าวมาก่อนนะครับ และ ลองสังเกตอาการผิดปกติดู หากประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ ไม่สม่ำเสมอ กะปริดกะปรอยอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

ส่วนในเรื่องของตกขาวนั้น หากตกขาวลักษณะดังกล่าวนั้น มีลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

Anonymous

23 กรกฎาคม 2557 10:40:30 #9

เมื่อวานก็มีเลือดประจำเดือนมาอีกนิสสสสเดียวเหมือนเดิมเลยคะ  แต่หนูได้เลิกทานยาสตรีแล้วนะคะ  ส่วนอาการตกขาวก็ตกขาวเป็นสีขาวขุ่นปกติเลยค่ะ ไม่มีอาการคันเลย หนูคิดว่าที่ประจำเดือนไม่มาซักทีคงเป็นเพราะหนูคิดมาก กังวลกลัวท้อง แต่หนูก็ได้ตรวจดูแล้ว 2 ครั้งก็ไม่ท้องคะ  และทานยาสตรีอย่างที่คุณหมอว่าจิงๆคะ งั้นหนูจะสังเกตอาการไปก่อนคะ ถ้าประจำเดือนยังไม่มาอีกจะไปพบแพทย์ดูคะ  ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยนะคะที่ให้คำปรึกษานะคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

24 กรกฎาคม 2557 10:26:20 #10

ได้ครับ อย่างไรก็ให้สังเกตอาการตกขาวและเรื่องเลือดไปก่อนนะครับ เรื่องการครรภ์ หมอคิดว่า ไม่ตั้งครรภ์นะครับ

Anonymous

26 กรกฎาคม 2557 11:34:51 #11

คุณหมอคะ หนูคิดว่าประจำเดือนหนูมันมาแล้วคะ แต่มันมาแบบกระปิดกระปรอยมากๆๆเลยคะ วันหนึ่งมานิดเดียวเองคะ บางวันก็ไม่มาคะ  หนูจะทำไงดีคะ หรือควรจะทานยาอะไรไหมคะ ไปหาหมอที่คลินิกก็ให้คำแนะนำให้คิดยาคุมคะ เพราะมันอาจจะช่วยปรับให้ฮอโมนปกติได้ แต่หนูไม่เคยกิน หนูเลยไม่กล้ากินคะ กลัวประจำเดือนจะเลื่อนมากกว่าเดิมอีกคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

27 กรกฎาคม 2557 23:17:34 #12

เลือดที่ออกมาผิดปกตินั้นเป็นผลจากยาที่ทานไปนะครับ ซึ่งหมอยังไม่แนะนำให้ทานยาอะไรไปอีกเพราะจะทำให้สับสนได้ง่ายว่า ความผิดปกติที่เกิดขึ้นใหม่อีกเกิดจากอะไร หมอแนะนำให้สังเกตุอาการเรื่องเลือดไปก่อน หากยังกะปริดกะปรอยอยู่ ไม่หยุดหายไปเองใน 1 สัปดาห์ ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจประเมินก่อนนะครับ หากเลือดออกดีขึ้นแล้ว ก็ควรมาปรึกษาแพทย์ก่อนเรื่องการคุมกำเนิดนะครับ