กระดานสุขภาพ

ถ่ามคะ
Hell*****2

14 กรกฎาคม 2557 03:20:36 #1

หมอคะคือหนูมีเพศสัมพันธ์เมื่อเดือนที่แล้วภายในระยะเวลา7วันที่ประจำเดือนมาแล้วหมดคะแล้วหนูก็กินยาคุมฉุกเฉินไปภายในไม่เกินครึ่งชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกแล้วเม็ดที่สองอีก12ชั่วโมหลังจากกินเม็ดแรกคะแล้วก็มีประจำเดือนมาภายใน7วันแล้วหลังจากนั้นก็มีเพศสัมพันธ์แบบใส่ถุงยางอนามัยแล้วก็ทดสอบว่าไม่มีรุั่วทุกครั่งคะแล้วมาเดือนนี้มีตกขาวสีน้ำตาลออกมาตรงกับประจำเดือนของรอบนี้ที่ควรจะมาในเดือนนี้คะมาเปี้อนกางเกงในนิดหน่อยประมาณ2วันคะพอวันที่3หนูซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจก็ขึ้นขีดเดียวคะแต่ตอนนี้เมนส์ยังไม่มาเลยผ่านมา7วันเเล้วมีอาการเหมือนประจำเดือนจะมาแต่ก็ยังไม่มาหนูจะท้องไหมคะ

อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.83 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

15 กรกฎาคม 2557 19:15:09 #2

หมอขอตอบเป็นกรณีดังนี้นะครับ

1. หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ส่วนการที่มีเพศสัมพันธ์ในระยะปลอดภัยนั้น คือ การมีเพศในช่วงที่ประจำเดือนหมดใหม่ คือ ในช่วงหลัง 7 วันหลัง หรือ ก่อนหน้าวันที่มีประจำเดือนวันแรกนะครับ ไม่ได้นับจากวันที่ประจำเดือนหมด ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ไม่มีการตกไข่ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงนี้ จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ

2. ส่วนสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ซึ่งในกรณีนี้ น่าจะเกิดจากผลของยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ

3. ส่วนในกรณีที่มีตกขาวนั้น โดยปกติแล้วหลังทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีสารคัดหลั่งในช่องคลอดได้เล็กน้อยครับ แต่จะไม่ถึงกับเป็นตกขาว ดังนั้น หากตกขาวลักษณะดังกล่าวนั้น มีลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

4. การตรวจการตั้งครรภ์นั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ