กระดานสุขภาพ

การมีเพศสัมพันธ์
Anonymous

25 มิถุนายน 2557 04:36:23 #1

สอบถามคุณหมอค่ะ การมีเพศสัมพันธ์กับเเฟนอยู่บ่อยๆ  เดือนนึงประมาน 2-3ครั้ง ทุกครั้งใช้ถุงยางอนามัย หนูอยากจะทราบว่าการมีเพศสัมพันธ์เเบบนี้จะส่งผลกระทบต่อมดลูกหรือรังไข่บ้างไหมค่ะ เเล้วจะทำให้เป็นโรคอะไรร้สยเเรงได้หรือเปล่า อย่างเช่นมะเร็ง หรือ ถุงน้ำที่มดลูกอะค่ะ รบกวนด้วยค่ะ คุณหมอ

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

27 มิถุนายน 2557 02:32:46 #2

หากใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง สวมใส่ก่อนการสอดใส่ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยนะครับกับ โรคมะเร็ง หรือ ถุงน้ำในรังไข่นะครับ

Anonymous

27 มิถุนายน 2557 03:05:56 #3

ค่ะ เเล้วการมีเพศสัมพันธุ์บ่อยๆ จะทำให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูกได้ไหมค่ะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 มิถุนายน 2557 10:24:18 #4

การมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ ไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกมากขึ้นนะครับ เพียงแต่สัมพันธ์กับจำนวนคู่นอนและพฤติกรรมของการมีเพศสัมพันธ์มากกว่าครับ เช่น มีคู่นอนมากๆ และ คู่นอนก็มีความเสี่ยงต่อโรคทางเพศสัมพันธ์มากเช่นกัน เป็นต้นครับ

Anonymous

1 กรกฎาคม 2557 14:12:28 #5

ขอบคุณมากเลยค่ะคุณหมอ ปรึกษาเพิ่มเติมค่ะ คือหนูเป็นเชื้อราในช่องคลอดบ่อยอ่ะค่ะ เเล้วบางทีมันเป็นก้อนขาวๆคล้ายโยเกริ์ตบางทีเป็นน้ำใสๆ เเละมีอาการคันร่วมด้วย เเล้ววันนี้ตกขาวหนูมีเลือดปน เเต่เป็นเลือดจุดเล็กๆ ไม่ได้เยอะอะค่ะ จะเป็นอันตรายร้ายเเรงไหม เเล้วหนูมีประจำเดือนกับเเฟนหลังประจำเดือนหมดพอดีคือประจำเดือนหมดวันที่20 มีวันที่21อะค่ะเเต่มีการใช้ถุงยางอนามัยนะค่ะ

Anonymous

1 กรกฎาคม 2557 14:14:19 #6

มีเพศสัมพันธ์ ขอโทษค่ะพิมพ์ผิด

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

3 กรกฎาคม 2557 06:14:18 #7

หากตกขาวออกมามีลักษณะคล้ายกาว หรือ นมโยเกิร์ต หรือ แป้ง นั้น ส่วนใหญ่แล้ว เป็นลักษณะของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และ มักจะมีอาการคันร่วมด้วย แต่หากยังไม่มีอาการอะไร อาจเป็นการติดเชื้อแรกๆได้ ซึ่งการรักษา จะต้องรักษาด้วยการใช้ยาเหน็บช่องคลอด อาจใช้ยาที่ชื่อสามัญว่า clotrimazole ซึ่งเป็นยาเหน็บทางช่องคลอดครับ ระหว่างนี้ งดเพศสัมพันธ์ รักษาความสะอาด หลีกเลียงความอับชื้น ไม่สวนล้างช่องคลอด เป็นต้นครับ ส่วนปริมาณ การใช้ยา และ วิธีการสอดยา อาจลองปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาได้ครับ หากรักษาแล้ว ไม่ดีขึ้น ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจน เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เพราะที่หมอกล่าวไป เป็นเพียงการคาดเดาจากอาการเท่านั้นครับ

Anonymous

3 กรกฎาคม 2557 06:55:06 #8

เพิ่มเติมอีกนิดนะค่ะ คือตอนนี้หนูกัวลเรื่องตั้งครรภ์อ่ะค่ะ คือหนูมีประจำเดือนประมาณ วันที่ 14-15 มิ.ย.อะค่ะ หมดวันที่ 20 เเล้วมีเพศสัมพันธ์วันที่ 21 อะค่ะ มันเสี่ยงกับการตั้งครรภ์ไหมค่ะ เเต่มีการใช้ถุงยางอนามัยนะค่ะ  เเล้วถ้าถุงยางรั่ว เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างค่ะ หนูกังวลมากเลยค่ะ 

Anonymous

4 กรกฎาคม 2557 06:37:31 #9

เพิ่มเตื่มนะคะ เดือนก่อนหน้านี้ ประจำเดือนก็มาประมานวันที่ 13-14พ.ค. เเล้วหนูเป็นคนมีประจำเดือน 7-8วันเลยอะค่ะเเทบทุกเดือนเลยนะค่ะ  เเล้วระยะปลอดภัยของหนูคือวันไหนค่ะ เเล้วไข่ตกคือช่วงวันใดค่ะ คุณหมอ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

4 กรกฎาคม 2557 09:54:50 #10

ในช่วงที่ประจำเดือนหมดใหม่ คือ ในช่วงหลัง 7 วันหลังจากมีประจำเดือนวันแรก จะเป็นช่วงที่ไม่มีการตกไข่ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงนี้ จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ ซึ่งจะแม่นยำให้ผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอนะครับ ส่วนในกรณีของการใช้ถุงยางอนามัยนั้น หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ

Anonymous

4 กรกฎาคม 2557 10:16:24 #11

คือช่วงที่หนูมีเพศสัมพันธ์คือระยะปลอดภัยใช่ไหมค่ะ คุณหมอ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

5 กรกฎาคม 2557 17:38:49 #12

อย่างที่หมอกล่าวไป ในช่วงหลัง 7 วันนับจากวันที่ประจำเดือนมาวันแรก ผู้หญิงที่มีรอบประจำเดือนมาสม่ำเสมอ จะเป็นช่วงที่ไม่มีการตกไข่ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงนี้ จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ

Anonymous

6 กรกฎาคม 2557 10:29:06 #13

เเล้วการที่มีเลือดออกกระปิดกระปอยจากช่องคลอดมันคืออาการอะไรค่ะ เป็นมา4-5วันเเล้ว เป็นพร้อมกับเชื้อราอะค่ะ หนูไปหาหมอ หมอบอกเป็นเชื้อราในช่องคลอดอ่ะค่ะ เเล้วเชื้อรานี้ ทำให้มีเลือดออกได้ด้วยหรอค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

9 กรกฎาคม 2557 03:58:33 #14

ในเรื่องของเชื้อราในช่องคลอดนั้น โดยปกติแล้ว ไม่ทำให้มีเลือดออกนะครับ ซึ่งสาเหตุของเลือดออกกะปริดกะปรอยนั้น มีสาเหตุมากมายครับ ซึ่งหากเกี่ยวข้องกับรอบประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอด้วยแล้วนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ดังนั้น หากยังมีความผิดปกติอยู่ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุนะครับ

Anonymous

9 กรกฎาคม 2557 05:40:50 #15

ถ้าหนูกังวลเรื่องเลือดหน้าล้างเด็กก็คงไม่น่าจะใช่ เพราะส่วนมากจะเป็นประมาณ 2-3วันใช่ไหมค่ะ เเต่นี่หนูมีเลือดออกกระปิดกระปอยมาประมาณ7วันเเล้ว เเล้ว ประจำเดือนเดือนที่เเล้วมาวันที่ 14 มิ.ย.หมดวันที่20 มิ.ย.มีเพศสัมพันธ์วันที่21มิ.ย เเต่มีการป้องกัน เริ่มมีเลือดออกวันที่ 2 ก.ค.เเล้วถ้าเลือดที่ออกนี้เกิดจากการตกไข่ เลือดที่ออกนี้มีประมาณกี่วันค่ะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

10 กรกฎาคม 2557 02:48:18 #16

คำว่า เลือดล้างหน้าเด็กนั้น (Implantation bleeding) ในทางการแพทย์คือ เลือดที่ออกจากการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฎิสนธิของอสุจิและไข่ บริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ในช่วงหลังตกไข่ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือ หลังประจำเดือนรอบสุดท้ายประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นเลือดออกจางๆ ปริมาณเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ผิดปกติอะไรครับ แต่ปัญหาอาจทำให้สับสนว่า เป็นเลือดประจำเดือนที่มาผิดปกติหรือไม่ ซึ่งการแยกอาจดูจากลักษณเลือดออก หรือ อาจตรวจปัสสวะในช่วงวันที่ประจำเดือนขาดไปประมาณข่วง 4 สัปดาห์หลังประจำเดือนรอบสุดท้าย หากเป็นผลบวกหรือตั้งครรภ์ ก็ถือว่าเป็น เลือดล้างหน้าเด็กครับ

ส่วนในเรื่องการที่มีภาวะต่างๆแล้วทำให้ไข่ไม่ตกนั้น อาจมีลักษณะได้ตั้งแต่ เลือดออกกะปริดกะปรอย ประจำเดือนไม่มา ขาดหายไปแล้วมาปริมาณๆ หลายๆวันได้ ดังนั้น หากเลือดนี้ ไม่ได้มีลักษณะของรอบประจำเดือน และ ก็ไม่ได้มีสาเหตุตามที่หมอกล่าวไป ก็ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุนะครับ