กระดานสุขภาพ

ทานยาคุมฉุกเฉินแล้ว...แต่ไม่มีเลือดออก
Anonymous

16 มิถุนายน 2557 07:45:12 #1

รบกวนคุณหมอค่ะ มีรอบเดือนวันที่ 28/5 และมีเพศสัมพันธ์กับแฟนวันที่ 4/6 แต่ทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกวันที่ 6/6 และทานเม็ดที่สอง 12 ชม. นับจากเม็ดแรก วันนี้วันที่ 16/6 ยังไม่มีเลือดออกมาเลยค่ะคุณหมอ ควรทำอย่างไรดีค่ะ...เพราะยังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ค่ะ...และจะเช็กว่าตั้งครรภ์ได้ในวันที่เท่าไรค่ะ...ขอบพระคุณคุณหมดค่ะ

อายุ: 34 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.35 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

17 มิถุนายน 2557 01:28:19 #2

ในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ส่วนการตรวจการตั้งครรภ์นั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

Anonymous

17 มิถุนายน 2557 02:07:23 #3

รบกวนคุณหมออีกครั้งค่ะ พอนับระยะตกไข่ แล้ว ไข่ตกวันที่ 11 มิ.ย. โอกาสตั้งครรภ์อยุ่ในช่วง 8 - 13 มิ.ย. และจะมีรอบเดือนอีกครั้งวันที่ 24 มิ.ย. พฤติกรรมคือ มีเพศสัมพันธ์วันที่ 4 และทานยาคุมฉุกเฉินวันที่ 6 มิ.ย. มีเพศสัมพันธ์อีกครั้งวันที่ 8 และ 11 มิ.ย. ซึ่งทานยาคุมฉุกเฉินชุดที่ 2 วันที่ 11 มิ.ย. จากนั้นมีเพศสัมพันธ์วันที่ 14 มิ.ย. ไม่ได้ทานยาคุม....คุณหมอค่ะ จากรายละเอียดมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ไหมค่ะ เพราะไม่มีเลือดออกหลังทานยาเลยค่ะ..โอกาสที่จะตั้งครรภ์มีสูงมากแค่ไหนค่ะเพราะไม่ได้ทานยาทันที่หลังมีเพศสัมพันธ์เสร็จ และทราบว่าการทานยาคุมเฉุกเฉินกิน 2 กล่องต่อเดือนอาจส่งผลเสียอย่างมากค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

18 มิถุนายน 2557 00:48:09 #4

โดยปกติแล้ว ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงไม่เกิน 72 ชั่วโมง อาจทานทันที 2 เม็ดหรือห่างกัน 12 ชั่วโมงก็ได้ ประสิทธิภาพจะเท่าเทียมกัน แต่การทานซ้อนกันหรือทานทุกๆครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ถือว่า ไม่สมควรครับ เนื่องจากจะทำให้ประสิทธิภาพลดต่ำลงและยังทำให้มีผลข้างเคียงจากยามากขึ้นอีกด้วย ซึ่งส่งผลต่อให้คาดเดาการตกไข่ไม่ได้เลยครับ จึงไม่สมารถบอกได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่หรือจะมีประจำเดือนเมื่อไหรครับ

ดังนั้น อย่างที่หมอกล่าวไป เรื่องเลือดที่ออกมาหลังจากทานยานั้น ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ และ หมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์อย่างที่หมอกล่าวไปนะครับ

Anonymous

18 มิถุนายน 2557 15:02:36 #5

ขอบพระคุณ คุณหมอมากค่ะที่สละเวลาอันมีค่าในการตอบคำถาม...ขอบคุณค่ะ