กระดานสุขภาพ
อาการเดิมกลับมาเป็นครับ | |
---|---|
14 มิถุนายน 2557 19:36:54 #1 สวัสดีครับคุณหมอ ผมมีเรื่องกลุ้มใจอยากจะถามหมอ ก่อนเข้ารักษารอบที่สี่ครับ เรื่องราวผมได้เคยมาถามในบอร์ดนี้หลายครั้งแล้ว ผมจะขอเล่าเรื่องราวใหม่นะครับ เมื่อประมาณช่วงปลายเดือนมกราคม วันที่ 28 ผมได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่งแบบไม่ได้ป้องกัน แต่ผมก็ไม่ได้มีอะไรกันนาน เพียงแค่แปปเดียวจริงๆครับ หลังจากผมมีเพศสัมพันธ์ไปได้สักวันสองวันผผมก็รู้สึกว่ามีตุ่มอะไรขึ้นที่หนังหุ้มอวัยวะเพศผมก็เลยดูและไปหาหมอเพื่อรักษาในวันที่ 2 กุมภา หมอเลยคิดว่าน่าจะเป็นแผลริมอ่อนเลยให้ยามากิน ผมก็กินตามหมอสั่งแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ผมเลยไปหาหมออีกที่วันที่ 10 กุมภา หมอเลยดูแผลและเจาะเลือดฉีดยาและให้ยามากิน ระหว่างช่วงการรักษาอาการก็ดีขึ้นครับและหาย และวันที่ 17 หมอก็นัดดูอาการและฟังผลเลือด ผลเลือดเป็นลบทั้งซิฟิลิส และ hiv ผมเลยโล่งอกและหมอก็ไม่ได้นัดมาตรวจอะไรอีก หลังจากนั้นก็กลับมาเป็นอีกในช่วงท้ายเดือนเมษาเมื่อผมเห็นแผลเลยรีบไปหาหมอ วันที่ 1 พฤษภา ผมเลยไปรักษาอีกโรงพยาบาล ซึ่งถูกส่งตัวไป หมอก็วินิจฉัยและให้ยามากินบอกว่าเป็นการอักเสบ และนัดดูผลวันที่ 8 พฤษภา แต่ก็ไม่ดีขึ้น หมอเลยฉีดยาและให้ยามากิน และนัดมาดูผลวันที่ 22 พฤษภา ผลก็หายปกติ และก็ไม่ได้นัดมาอีกครับ และวันนี้ 15 มิถุนา ก็กลับมาเป็นอีกแล้ว ผมก็ชักสงสัยว่าตกลงผมเป็นอะไรกันแน่ ผมก็ทำความสะอาดตลอดเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นอีก เพศสัมพันธ์ผมก็ไม่ได้มีนับตั้งแต่เป็นครั้งแรกตอนนี้กลุ้มมากครับ อาจจะทราบว่าผมควรย้ายโรงพยาบาลรักษาหรือ มีวิธีอื่นอีกไหมครับ ในการรักษาให้หายขาด แล้วจะเสี่ยงต่อการเป็น hiv หรือ ซิฟิลิส หรือป่าวครับ เพราะผมไม่แน่ใจว่าการเจาะเลือดตรวจจะตรวจแบบไหนเพราะผมหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต บ้างก็บอกต้องสามเดือนขึ้น หกเดือน หรือ 14 สัปดาห์หลังรับเชื้อ ขอคำปรึกษาหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ |
|
อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.26 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
14 มิถุนายน 2557 19:56:50 #2 ลืมบอกไปอีกนิดครับ ผมเป็นคนนอนดึกมากครับ และยังมีการช่วยตัวเองในบางครั้ง ก่อนเกิดอาการผมได้กินอาหารทะเล ส่วนอาการอื่นๆที่เกิดขึ้นที่ผมคิดว่าไม่น่าเกี่ยวกันก็มี ตุ่มแดงๆเล็กขึ้นหลายตุ่มและคันครับ แต่เป็นที่แขนครับจุดเดียว และก็เหมือนมีอาการปวดที่ใต้รักแร้ทั้งสองข้างครับเป็นแปปเดียวก็หายลองเอามือลูบก็ไม่มีตุ่มอะไร ครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
16 มิถุนายน 2557 01:00:43 #3 ถ้าหลังจากที่มีความเสี่ยงเมื่อเดือนมกราคมแล้วไม่มีความเสี่ยงเพิ่มอีก การตรวจเลือดทั้งเอดส์และซิฟิลิสที่ 3 เดือนหลังเสี่ยง เป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดทั้งเอดส์และซิฟิลิส ส่วนเรื่องแผล เท่าที่เล่ามามีการเป็นๆหายๆ น่าจะเป็นเริมซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง หรือบางครั้งก็เป็นขึ้นเอง โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเอง แนะนำหาหมอโรคผิวหนังหรือกามโรค หรือถ่ายรูปขณะที่เริ่มเป็นตุ่มน้ำหรือเป็นแผลใหม่ๆมาให้ดูก็ได้ แต่การที่หมอมีการตรวจร่างกายและเห็นแผล ก็จะให้การวินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง |
Anonymous