เพิ่มเติมนะคะคุณหมอ คือว่าวันมีเพศสัมพันธุ์ คือวันที่ 21 พ.ค. อยู่ในช่วงระยะตกไข่ด้วยคะ อยากทราบว่าจะทำให้ประสิทธิ์ภาพของยาคุมฉุกเฉิน ลดลงรึเปล่าคะ หนูพึ่งเคยทานยาคุม ครั้งแรกในชีวิต ทานยาคุม หลังจากมีเพศสัมพันธุ์ 30 นาที เม็ดแรก เวลา 16:30 เม็ดที่ 2 เวลา ตี 4:30 จะมีโอกาสเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนคะ ไม่มีอาการข้างเคียงใดๆเลย ระหว่างสอดอวัยวะ น้ำล่อลื่นหนูน้อยมากคะ แฟนก็มีเล็กน้อย 

ครั้งแรกที่สอดใส่ ใส่ถุงยางคะ เข้าๆออกๆได้ 4-5 ครั้ง ก็ถอนออกก่อน เพราะเจ็บ

พอถอนออกดูไม่มีรอยแตกรอยรั่ว ก็สอดใส่ใหม่คะ เข้าๆออกๆได้ 4-5 ครั้งโดยประมาณ แล้วถอนออก เลยรู้ว่าถุงยางขาด

ตอนที่ถอนแฟนบอกว่าน้องชายของแฟนแห้ง แต่หนูมีน้ำล่อลื่นเล็กน้อย อยากทราบโอกาสการตั้งครรภ์คะ และประสิทธิ์ภาพของยาคุมฉุกเฉินที่กินกลังมีเพศสัมพันธิ์ 30 นาที ในระยะตกไข่ ว่าทีโอกาสมากน้อยแค่ไหน กังวลมากคะ นอนไม่หลับ ขอรบกวรคุณหมอนะคะ ขอบคุณคะ

หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ แต่หากมีถุงยางรั่วหรือขาด การทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็จะมีประโยชน์ในกรณีนี้มาก เพราะ ประสิทธิภาพในการป้องกันสูง ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ

ในกรณีที่ถุงยางขาดนั้น โดยปกติแล้ว ในกระบวนการผลิดถุงยางอนามัยนั้น มีระบบการตรวจสอบคุณภาพที่รัดกุมมาก มีการทดสอบก่อนออกมาจากการผลิต ซึ่งโอกาสที่จะรั่วหรือขาดนั้นน้อยมากครับ ซึ่งหมอขอแนะนำหลักการการใช้ง่ายๆ ดัวนี้ครับ
- ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ
- เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป
- การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด
- ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ
- ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น
- เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศยังแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ

สุดท้ายโดยสรุปแล้ว หมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์นั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

แล้วอยากทราบว่า % โอกาสจะท้องมีมากน้อยแค่ไหน กังวลใจ 

แล้วถ้าอยู่ในระยะตกไข่แบบหนู 7 วันหลังจากมีอะไรกัน ตรวจปัสสาวะได้เลยรึเปล่าค่ะ ร้อนใจ

โอกาสน้อยมากๆครับ แต่หมออาจตอบเป็นตัวเลขได้ยาก เพราะ มีขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งหากใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินช่วย ก็ทำให้โอกาสนี้ต่ำลงมากๆครับ ส่วนการตรวจการตั้งครรภ์นั้น อย่างที่หมอกล่าวไป ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ไม่สามารถบอกได้นะครับ

คุณหมอคะ แล้วยาคุมฉุกเฉิน ถ้าทานตอนไข่ตก ประสิธิภาพจะมีมากน้อยแค่ไหนคะ หรือว่ายาคุมฉุกเฉินช่วงระงับได้ทุกช่วงของการตกไข่คะ

อย่างที่หมอกล่าวไปนั้น ในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ทั้งในการยับยั้งการตกไข่ และ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว ดังนั้น ทั้งสองกลไกนี้ ทำให้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้แม้ในช่วงที่ตกไข่ไปแล้วครับ

คุณหมอคะ ตั้งแต่เช้าวันที่ 23 พ.ค รู้สึกมีอาการเหมือนตกขาวเล็กน้อย แล้วก็ปวดปีกมดลูกข้างซ้าย ท้องน้อยข้างซ้ายอ่าคะ แล้วก็ปวดไม่สม่ำเสมอ ปวดเป็นบางเวลา มีอาการบวมเล็กน้อย ตกขาวก็มีมาตลอด บางทีก็มีสีขุ่นๆขาว บางทีก็ใสๆ ไม่มีกลิ่น มันจะเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกรึเปล่าคะ หรือว่าเป็นเอฟเฟกของยา ควรไปตรวจภายในเลยไมคะ 

ขอแก้นะคะคุณหมอ อาการบวมข้างขวาล่างคะ

คุณหมอคะ คือวันนี้ที่ 28 พ.ค. หนูมีเลือดสีช๊อกโกแลตออกมา ครบ 7 วันพอดี คิดว่าน่าจะเป็นผลของยาคุมฉุกเฉินใช่ไมคะ?

แต่งหนูมีอาการปวดท้องน้อยเหมือนปวดประจำเดือนเลยคะ ปวดมาก เหมือนประจำเดือนมาทุกเดือน นี้ก็เป็นผลของยาหรือเปล่าคะ?

ในเรื่องเลือดที่ออกมานั้น หมอคิดว่า เป็นเลือดที่เกิดจากผลของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนะครับ และ ในช่วงที่มีเลือดนี้ ก็จะมีอาการปวดท้องได้ครับ ส่วนในเรื่องตกขาวนั้น หากตกขาวลักษณะดังกล่าวนั้น มีลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

ส่วนเรื่องอาการบวมนั้น หมอคิดว่าเป็นอาการค่อนข้างแปลกนะครับ ที่จะบวมแล้วคลำได้บริเวณนี้ ดังนั้น หากอาการปวดท้องมาก และ มีอาการบวมที่กล่าวมามากขึ้น ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจร่างกายนะครับ

ไม่มีอาการตกขาวขุ่นข้นขนาดนั้นคะ คลำบริเวณที่บวม ไม่เป็นก้อน กดบริเวณตรงที่บวม ไม่รู้สึกเจ็บทั้งตอนกดแล้วหลังกดคะ นี้ก็ 10 วันแล้วคะ 

จากประวัติตั้งแต่เริ่มอาการเจ็บท้องน้อยข้างขวาหายแล้วคะ เพราะไปพบแพทย์มาแล้ว แต่การตรวจการตั้งครรภ์ ได้ตรวจหลังจาก 7 วันที่ประจำเดือนไม่มา ยึด ปจด. เดือนที่แล้วเป็นหลักคะ เพราะ 2 เดือนที่แล้ว ปจด. มาตรงกัน ตรวจปัสสาวะ ตอน ตี 3 กว่าๆ ขึ้นขีดเดียวคะ นับจาก มีเพศสัมพันธ์กับแฟน มาแล้ว 21 วันคะ ขึ้นขีดเดียวคะ ผลการตรวจ การตั้งครรภ์ลักษณะนี้ ผลน่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนคะ รบกวนึุณหมอด้วยคะ

จากผลการตรวจในช่วงดังกล่าว หากตั้งครรภ์จริง ก็จะตรวจพบแล้วครับ ดังนั้น หมอคิดว่า ไม่ตั้งครรภ์แล้วครับ

ขอเพิ่มเติมคะคุณหมอ คือวันที่ 12-17 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีเลือดออกเหมือน ปจด. มันคือ ปจด.จริง หรือว่าผลของยาคุมอยู่คะ แล้วท้องน้อยก็รู้สึกเหมือนป่องๆด้วยคะ เช้าวันที่ 27 พ.ค. ตอนตี 5 กว่าๆ ก็ได้ตรวจการตั้งครรภ์ทางปัจสาวะอีกรอบ ขึ้น 1 ขีดคะ ผลที่ได้คือไม่ท้องแล้วจริงๆใช่ไมคะ แล้วเลือดที่ออกมาเป็นผลของยาคุมฉุกเฉิน หรือว่า ปจด. จริงๆคะ ช่วยตอบด้วยคะ ขอบคุณคะ

**** แก้ไข้คะ****คะคุณหมอ คือวันที่ 12-17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีเลือดออกเหมือน ปจด. มันคือ ปจด.จริง หรือว่าผลของยาคุมอยู่คะ แล้วท้องน้อยก็รู้สึกเหมือนป่องๆด้วยคะ เช้าวันที่ 27 มิ.ย. ตอนตี 5 กว่าๆ ก็ได้ตรวจการตั้งครรภ์ทางปัจสาวะอีกรอบ ขึ้น 1 ขีดคะ ผลที่ได้คือไม่ท้องแล้วจริงๆใช่ไมคะ แล้วเลือดที่ออกมาเป็นผลของยาคุมฉุกเฉิน หรือว่า ปจด. จริงๆคะ ช่วยตอบด้วยคะ ขอบคุณคะ