กระดานสุขภาพ

สอบถามครับ มีแผลที่อวัยวะเพศ
Anonymous

20 พฤษภาคม 2557 07:56:46 #1

สอบถามครับ

ตอนนี้ ผมมีแผลที่ปลาย อวัยวะเพศ เป็นตุ่มเล็กๆ และมีอาการคันครับ

แล้วเจ็บตอนมีเพศสัมพันธ์ หลังจากถึงจุด เหมือนจะมีเลือดปนออกมากับน้ำ

อยากทราบครับ ว่าเกิดจากอะไร และเป็นโรคอะไร ขอบคุณครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/35304-12720-01.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/35304-12720-02.jpg

อายุ: 29 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 59 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.42 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

20 พฤษภาคม 2557 14:48:41 #2

1. ที่เห็นเป็นจุดเล็กๆที่ส่วนหัวของอวัยวะเพศ น่าจะเกิดจากการแพ้หรือระคายเคืองจากสารต่างๆหรือการร่วมเพศที่นานหรือบ่อยร่วมกับเชื้อรา วิธีรักษาคือเริ่มด้วยการทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและ สบู่อ่อนๆ เช่น สบู่เด็ก ห้ามใช้สบู่ยาหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ จะยิ่งบวมและอักเสบมากขึ้น เช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อราและเสตียร์รอยด์อ่อนๆ เช่น clotrimazole+ triamcinolone 0.02% ประมาณ 5 -7 วัน น่าจะดีขึ้น

2. แผลที่เห็นอีกแผล ตื้นๆที่บริเวณขอบของส่วนหัว อาจจะเป็นเริมซึ่งเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจาการติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยง ประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง อีกโรคที่พบได้บ่อยขึ้นในชายรักร่วม เพศ คือซิฟิลิส ซึ่งแผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ รักษาโดยการฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอกามโรค

3. เรื่องที่มีเลือดปนน้ำอสุจิ อาจเกิดจากเส้นเลือดฝอยฉีกจากการร่วมเพศที่นาน รุนแรง ต้องหยุดกิจกรรมทางเพศ 2 อาทิตย์ก็น่าจะไม่เป็นอีก แต่ถ้าเป็นเรื้อรัง แนะนำหาหมอระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ

Anonymous

21 พฤษภาคม 2557 23:15:40 #3

ขอบคุณมากครับ