กระดานสุขภาพ

ถามเรื่องยา norethisterone หน่อยค่ะ
Ninj*****f

17 พฤษภาคม 2557 04:55:27 #1

พอดีว่า นู๋มีเพศสัมพันธ์ ช่วงน่าจะก่อนวันไข่ตกนะค่ะ  แล้วพอถึงวันกำหนดประจำเดือนจะมา ก็ยังไม่มา จนเลยไป 6 วันก็ยังไม่มา เลยลองตรวจครรภ์ด้วยปัสสาวะ ผลก็คือ ลบ 

นู๋เลยไปหาหมอสูติ หมอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะความเครียด ไม่ก็เพราะเรื่องไข่ตก แล้วนู๋ก็บอกหมอไปว่าลองตรวจครรภ์แล้วก็ไม่พบ หมอเลยให้ยา norethisterone มากิน 5 วันเพื่อตรวจเช็คเรื่องไข่ตกหลังจากกินยาหมด 3 วัน ก็มีเลือดออกมา ทั้งหมด 5-6วัน  

หมอเลยสรุปว่ามีปัญหากับการไข่ตก หมอเลยสั่งยา norethisterone แบบเดิม เพื่อทานปรับ ฮอโมน ให้กินทั้งหมด 15 วันเช้าเย็น

คือเริ่มทานตั้งแต่วันที่ 10/5/57 แล้วหมอนัดใหม่ เพื่อที่จะรับยาอีก 15 วันในวันที่ 10/6/57 หมอบอกต้องกิน ทั้งหมด 3เดือน เดือน ละ 15 วัน เพื่อปรับฮอโมน หลังจาก 3 เดือนก็น่าจะปกติ

คำถามค่ะ

1.หลังจากกินยาnorethisterone ที่ใช้เเช็คเรื่องไข่ตก 5 วัน หมดแล้ว เลือดออกมา แปลว่าไม่ท้องแล้วใช่ไหมค่ะ

2.กินยา 15วันต่อเดือน เพื่อปรับฮอโมน จะมีผลอย่างไรกับร่างกายมากไหมค่ะ

3.ถ้ามีเลือดออกมา แต่ ท้อง จะมีผลอย่างไรกับเด็กไหมค่ะ

อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.57 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Ninj*****f

17 พฤษภาคม 2557 16:58:30 #2

วันนี้ 17/5/57 ตอนประมาณ 21.00 นู๋ฉี่สีออกส้มๆ ด้วยค่ะ ไม่ทราบว่าเพราะยารึเปล่าค่ะ ตกใจไม่เคยเห็นค่ะ

Ninj*****f

17 พฤษภาคม 2557 17:00:09 #3

วันนี้ 17/5/57 กินยาไปทั้งหมด 8วันแล้วค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

19 พฤษภาคม 2557 16:45:55 #4

เรียน คุณ ninjaprobuff,

ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆนะครับ

  1. จากข้อมูลที่คุณตรวจสอบแล้ว จากชุดตรวจสอบการตั้งครรภ์ ผลเป็นลบ และปัจจุบันนี้มีเลือดประจำเดือนออกมาแล้ว โอกาสในการตั้งครรภ์ย่อมน้อยมาก ๆจนแทบเป็นไปไม่ได้ครับ
  2. การรับประทานฮอร์โมนเพื่อปรับรอบเดือน เป็นการเสริมเข้าไปเพื่อให้ระดับฮอร์โมนเพศในร่างกายให้เป็นปกติ เมื่อหยุดยา ร่างกายจะเริ่มสร้างฮอร์โมนให้เป็นไปในปริมาณและระยะเวลาตามปกติครับ การที่ระดับฮอร์โมนเพศน้อยกว่าปกติ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่มีการหนาตัว ถ้าเป็นปกติ เมื่อใกล้ ๆปลายรอบเดือน ฮอร์โมนเพศจะลดระดับลง จนทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฉีกขาดและหลุดลอกออกมาเป็นเลือดประจำเดือนครับ ไม่ต้องกังวลนะครับ หากรับประทานตามปริมาณและรอบระยะเวลาที่แพทย์สั่งใช้ ร่างกายจะขับยาที่เหลือออกไป ไม่ตกค้างในร่างกาย
  3. หากตั้งครรภ์ แต่มีเลือดออก ส่วนใหญ่ตัวอ่อนที่ฝังตัวอยู่ก็จะหลุดลอกออกไปครับ แต่แพทย์ได้ทำการตรวจร่างกาย ร่วมกับผลจากชุดอุปกรณ์ตรวจครรภ์แล้ว ไม่น่าจะมีการตั้งครรภ์ครับ

ช่วงวัยรุ่น มักจะมีรอบประจำเดือนมาไม่ปกติ เนื่องจากการสร้างฮอร์โมนเพศยังไม่คงที่ นอกจากนั้นหากพบภาวะเครียด เช่น การเรียนหนัก อดนอน การอดอาหาร หรืออ้วนเกิน การขาดการออกกำลังกาย การรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางประเภทก็อาจส่งผลต่อการสร้างฮอร์โมนเพศได้ด้วยครับ โดยทั่วไปการรับประทานยาปรับฮอร์โมนเพศ ประมาณ 3-6 เดือน จะทำให้ร่างกายค่อย ๆปรับตัวให้สร้างฮอร์โมนเพศได้ตามนาฬิกาของร่างกายครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ประจำเดือน (Menstruation) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา (สูตินรีแพทย์)