กระดานสุขภาพ

กังวลครับ
Anonymous

15 พฤษภาคม 2557 09:47:00 #1

มีอารัยกับแฟน. สอดใสไม่ใช่ถุงยาง.  แต่เค้าไปแค่ส่วนหัวของอรัยวะเพศ. ไม่ถึงนาที. ก้อเอาออก.  และให้แฟนล้างส่วนนั้นทันที. แล้วไม่ได้มีอารัยกันตอเลย. จะท้องไหมครับ. กังวลมากกครับ

อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 69 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.30 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

15 พฤษภาคม 2557 09:47:44 #2

ไม่ได้หลั่งด้วยครับ. คือหยุดเลยกลัวท้อง.  

Anonymous

15 พฤษภาคม 2557 13:39:50 #3

เพิ่มเติมครับ.  แฟนเมื่อเดือนที่แล้วไม่เป็นเมน.  ด้วยครับมาเดือนนี้ยังไม่เป็น. ตอน ที่มีอารัยกัน.  ก้อวันอังคาร. จนวันนี้3 วันแล้วครับ.  กลัว  มากครับ.  แนะนำหน่อย.  

Anonymous

15 พฤษภาคม 2557 15:19:08 #4

แฟนมีรอบเดือน 27-28 ครับ. แต่ตอนนี้ยังไม่มา. มีอารัยกันวันที่ 13 ที่ผ่านอะครับ.  ตอนนี้แฟนกินยาสตรีอยู่ครับ.  ควรทำอย่ารัยดีครับ

 

Anonymous

15 พฤษภาคม 2557 15:19:08 #5

แฟนมีรอบเดือน 27-28 ครับ. แต่ตอนนี้ยังไม่มา. มีอารัยกันวันที่ 13 ที่ผ่านอะครับ.  ตอนนี้แฟนกินยาสตรีอยู่ครับ.  ควรทำอย่ารัยดีครับ

 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

17 พฤษภาคม 2557 03:23:11 #6

ในช่วงที่สอดใส่อวัยวะเพศ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านใน ก็จะมีอสุจิออกมาในช่วงนี้แม้ในปริมาณที่น้อยแต่ก็อาจทำให้ตั้งครรภ์ได้ แต่หากสอดใส่เพียงเล็กน้อยเช่นนี้ โอกาสต่ำมากๆ ดังนั้น หมอคิดว่า ไม่จำเป็นต้องทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนะครับ แต่ครั้งหน้า ควรป้องกันให้ดีกว่า นี้เช่น สวมถุงยางอนามัยก่อนสอดใส่อวัยวะเพศนะครับ

ส่วนเรื่องประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ

ซึ่งจากประวัติที่กล่าวมานั้น มีการทานยาในกลุ่มนี้ ซึ่งตามความเห็นของหมอแล้ว ยาที่กล่าวมานั้นมีตัวยาเป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่การควบคุมปริมาณของสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ เนื่องจากมีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลต่อทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ และ อาจยังทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก กะปริดกะปรอยได้อีกด้วย ดังนั้น ในความเห็นของหมอ หมอคิดว่า ไม่ควรทานยาประเภทนี้นะครับ เพราะ นอกจากจะไม่รักษาที่สาเหตุแล้ว ยังอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากอะไร ดังนั้น ในความคิดเห็นของหมอ หมอแนะนำให้หยุดยาที่กล่าวมาก่อนนะครับ และ ลองสังเกตอาการผิดปกติดู หากประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ ไม่สม่ำเสมอ กะปริดกะปรอยอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ