กระดานสุขภาพ

มีเม็ดคล้ายเม็ดถั่วขึ้นอยู่ที่ถุงอัณฑะ
Anonymous

15 พฤษภาคม 2557 08:39:19 #1

มีเม็ดคล้ายเม็ดถั่วขึ้นที่ถุงอัณฑะไม่เจ็บ แต่รู้สึกเจ็บที่ลูกอัณฑะด้านขวาลูกอัณฑะตั้งตรงแนวดิ่งจะเป็นอะไรมั้ยครับ เคยไปตรวจ เชื้อเอส์ด ซิฟิลิส กามาโรคแล้วผลเลือดปกติช่วยตอบหน่อยครับ ขอบคุณครับ

อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 73 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.39 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

16 พฤษภาคม 2557 10:54:18 #2

เม็ดที่ถุงอัณฑะ ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจจะเป็นการอักเสบของรูขนคล้ายกับการเกิดสิว แนะนำกินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 500 มิลลิกรัมวันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน ประมาณ 7-14 วัน น่าจะหาย หรืออาจะเป็นซีสต์ ซึ่งถ้าไม่อักเสบจนเป็นหนองหรือมีเลือดออก ก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น เที่ยว มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจเป็นโรคติดต่อ ในกรณีนี้ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆและให้ประวัติทางเพศเพิ่มเติม คุณได้ตรวจเอดส์และซิฟิลิสแล้วปกติ ก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ 2 โรคนี้

Anonymous

23 พฤษภาคม 2557 04:56:45 #3

ขอบคุณครับหมอแต่เมื่อสักสองปีก่อนผมเคยแสบในท่อปัสสาวะตอนฉี่แสบมากคับแต่หายไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ที่เป็นคือเจ็บลูกอัณฑะด้านขวาและท่อที่ติดกะลูกอัณฑะรู้สึกจะบวมเจ็บแบบหน่วงๆเวลายืนพอเอามือไปกดที่หน้าท้องใต้สะดือก็หายไปสักพักแล้วก็เจ็บขึ้นมาอีกเป็นประจำ แต่ตอนนี้เม็ดที่ถุงลูกอัณฑะรู้สึกว่าจะเล็กลงเป็นเม็ดแข็งๆแต่ไม่เจ็บมีโอกาสเป็นโรคหนองในเทียมได้หรือเปล่าครับคุณหมอ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

23 พฤษภาคม 2557 12:23:25 #4

เรื่องที่สงสัยว่าจะเป็นหนองในเทียมหรือไม่ ถ้ามีประวัติเสี่ยง เช่นมีคู่นอนหลายคน เที่ยวหญิงบริการ ไม่ใช้ถุงยาง ร่วมกับมีอาการปัสสาวะแสบ ก็อาจเป็นหนองในเทียมได้ ต้องตรวจเชื้อจากท่อปัสสาวะ ส่วนเรื่องปวดหน่วงๆที่ลูกอัณฑะนั้น เป็นเพราะว่ามีส่วนที่ทำหน้าที่สร้างน้ำเชื้อ ท่อส่งน้ำเชื้อ เส้นเลือด เส้นประสาทอยู่รวมกัน เรียกว่า spermatic cord ซึ่งสามารถคลำได้เป็นเส้นหรือเป็นก้อนเล็กๆ มีความยืดหยุ่มติดอยู่กับลูกอัณฑะ และเนื่องจากเส้นนี้อยู่ติดเข้าไปในช่องท้อง ถ้ามีการดึงรั้ง อาจทำให้เสียวถึงในช่องท้องได้ แนะนำว่าอย่าคลำหรือดึงลูกอัณฑะ จะเสียวได้

Anonymous

24 พฤษภาคม 2557 06:52:32 #5

ครับหมออาการข้างต้นที่กล่าวมีอันตรายมากน้อยเพียงใด และโรคหนองในเทียมอันตรายมากน้อยเพียงไหนและควรรักษาอย่างไรครับ และยารักษามีขายมั้ยครับตามร้านขายยา

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 พฤษภาคม 2557 02:09:28 #6

อาการเรื่อลูกอัณฑะตามที่เล่ามา ไม่มีอันตรายหรือต้องรักษาแต่อย่าง ไร ยกเว้นว่าลูกอัณฑะ บวม อักเสบ เจ็บ ให้หาหมอ ส่วนหนองในเทียม รักษาโดยกินยา เช่น azithromycin เม็ดละ 250 มิลลิกรัม กินครั้งเดียว 4 เม็ด หรือยา doxycycline กินครั้งละ 100 มิลลิกรัม เช้าเย็น 7 วัน

Anonymous

27 พฤษภาคม 2557 02:29:04 #7

ถ้าเป็นหนองในเทียมมันจะมีอาการอย่างไรบ้างคับหลังจากสองปีที่ผ่านมาผมยังไม่มีอาการอะไรเลยหรือว่ามันจะไม่แสดงอาการคับหมอ และตอนนี้แฟนผมก็ท้องอยู่สามเดือนด้วยคับแต่ตอนสองปีที่ผ่านมาผมกับแฟนก็ได้รักษากินยาและฉีดยามาคนละ1เข็มแล้ว กับหมอทางเดินปัสสาวะโดยตรง  แต่ผมกินยาตามหมอให้มาจนครบ ส่วนแฟนผมกินบ้างลืมกินบ้าง ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ได้ผลผมก็ได้รับเชื้อมาอีกสิครับ

Anonymous

27 พฤษภาคม 2557 02:32:36 #8

และถ้าเป็นจริงเด็กในท้องจะมีอันตรายมั้ยครับคุณหมอ แต่ตอนนี้ก็รอคุณหมอที่ไปฝากท้องได้เจาะเลือดไปตรวจจะทราบผลได้ประมาณเดือนหน้าครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

28 พฤษภาคม 2557 01:13:58 #9

อาการโรคหนองในเทียม คือ มีหนองจากท่อปัสสาวะ แต่จะมีเล็กน้อยหรือมีเฉพาะตอนเช้า ปัสสาวะแสบขัดเล็กน้อย ส่วนในผู้หญิงจะมีตกขาวได้ อย่างไรก็ตามมีการศึกษาพบว่าอาจมีการติดเชื้อโดยไม่ีอาการก็ได้ ในกรณีของคุณที่ได้รักษาแล้ว ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศเพิ่ม ก็น่าจะหายขาด ส่วนเรื่องเด็กในท้อง เชื้อหนองในเทียมที่บบ่อย เช่น คลามัยเดีย อาจทำให้เด็กติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่นปอดบวม โดยรับเชื้อตอนเด็กคลอดผ่านช่องคลอด แต่พบไม่บ่อย เวลาแฟนไปฝากท้อง ให้เล่าเรื่องการเคยเป็นหนองเทียมให้หมอสูติกรรมด้วย

Anonymous

28 พฤษภาคม 2557 11:23:00 #10

ขอบคุณครับหมอ

Anonymous

28 พฤษภาคม 2557 11:33:58 #11

หลังจากที่หายไป5วันกลับมาเจ็บอีกแล้วคับลูกอัณฑะด้านขวาตั้งเป็นแนวดิ่งเจ็บลึกเข้าไปในเชิงกรานในท้องน้อยด้านขวาเจ็บเหมือนว่าลูกอัณฑะดึงเส้นเลือดให้มาห้อยตัวแล้วน้ำหนักมาลงอยู่ที่ลูกอัณฑะ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

29 พฤษภาคม 2557 17:22:46 #12

ในกรณีนี้ แนะนำหาหมอระบบทางเดินปัสสาวะและสืบพันธุ์ (หมอยูโร) เพื่อตรวจร่างกาย และให้การรักษาที่ถูกต้องครับ