กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนมาจะมีโอกาสท้องหรือไม่
Anonymous

12 พฤษภาคม 2557 04:05:22 #1

คุณหมอคะ รบกวนถามด้วยคะ

วันที่ 16 กับ 20 เมษายน มีอะไรกับแฟนแบบ ถูๆไถๆ จ่อเข้าไปเล็กน้อย แล้วออกไปหลั่งข้างนอก(ในห้องน้ำ) ไม่ได้ใส่ถุง

วันที่ 2 พ.ค. กินยาสตรี วันที่ 4 พ.ค. มีเลือดออก ประมาณ 5-6 วัน มีลิ้มเลือดออกด้วย วันแรกมามาก วันต่อไปน้อยลง

ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เดือนที่แล้วมาวันที่ 3 เมษา หลังมีอะไรกันมาวันที่ 4 พ.ค

ขอรบกวนถามว่า จะมีโอกาสท้องหรือเปล่าคะ ถ้ามีเลือดออกมาในลักษณะนี้

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.83 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

13 พฤษภาคม 2557 11:47:42 #2

หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้

ส่วนสาเหตุที่ประจำเดือนหรือเลือดออกมาผิดปกติเช่นนี้นั้น มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ

ซึ่งจากประวัติที่กล่าวมานั้น มีการทานยาในกลุ่มนี้ค่อนข้างบ่อย ซึ่งตามความเห็นของหมอแล้ว ยาที่กล่าวมานั้นมีตัวยาเป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่การควบคุมปริมาณของสารที่ออกฤทธ์ิคล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ เนื่องจากมีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลต่อทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ และ อาจยังทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก กะปริดกะปรอยได้อีกด้วย ดังนั้น ในความเห็นของหมอ หมอคิดว่า ไม่ควรทานยาประเภทนี้นะครับ เพราะ นอกจากจะไม่รักษาที่สาเหตุแล้ว ยังอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นอีกครับว่าเกิดจากอะไรกันแน่

ดังนั้น ในความคิดเห็นของหมอ หมอแนะนำให้หยุดยาที่กล่าวมาก่อนนะครับ และ ลองสังเกตุอาการผิดปกติดู หากประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ ไม่สม่ำเสมอ กะปริดกะปรอยอยู่ ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษา