กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องการติดต่อของโรคเริมครับ
Gosm*****e

2 พฤษภาคม 2557 09:00:35 #1

เรียนคุณหมอ

ผมขอสอบถามดังนี้ครับ

แฟนผมเป็นเริมที่ริมฝีปาก ได้ 3 วัน และในวันที่ 4 ผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยไม่ได้ป้องกันและแฟนยังมีประจำเดือนอยู่เล็กน้อยครับ

ในการมีเพศสัมพันธ์ ผมไม่ได้สัมผัสโดนแผลเริมที่ปากแฟนแต่อย่างใด จึงอยากสอบถามคุณหมอว่า ผมมีโอกาสติดเชื้อเริมจากการมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหรือไม่ครับ ถ้ามี จะมีอาการอย่างไร ภายในระยะเวลาเท่าใดครับ

ขอบพระคุณมากครับ

อายุ: 32 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.35 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 พฤษภาคม 2557 06:31:04 #2

เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง สำหรับเรื่องการติดต่อนั้นโดยทั่วไปแล้ว จะติดต่อกันได้ง่ายขณะที่มีรอยโรค เช่น ตุ่มน้ำ หรือขณะที่มีแผล อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ประเทศอเมริกาพบว่า อาจพบเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งหรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศได้แม้ไม่มีอาการแสดงของตุ่มน้ำหรือแผล เป็นไปได้ว่าอาจมีแผลที่ปากมดลูก หรือในช่องคลอดหรือในท่อปัสสาวะซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก โดยพบประมาณ 10% ของจำนวนวัน คือใน 1 ปีอาจพบได้ 36 วัน ในขณะที่ถ้ามีรอยแผลจะพบ 21% คือ 77 วัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อเริมจากคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนก็เป็นไปได้แต่จะน้อยกว่าการติดเชื้อขณะที่มีตุ่มน้ำหรือแผล ส่วนเรื่องแผลเริมที่ปาก ถ้าไม่ได้มีการสัมผัส ก็ไม่ติด แต่ต้องระวังว่าอาจมีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศด้วยหรือไม่

Gosm*****e

4 พฤษภาคม 2557 04:53:10 #3

เรียนคุณหมออนุพงศ์

ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ