เรียน คุณ veerayut,

จากข้อมูลยา ยังไม่เคยมีข้อมูลสำหรับกรณีแบบนี้ครับ ทางทฤษฎีน่าจะยังอยู่ แต่ถ้าตามขนาดยาที่บริษัทแนะนำ คือ
หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย ให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที มี 2 วิธีครับ คือ

1. รับประทานยาตามที่คุณแจ้งมา คือรับประทานยาทันที 1 เม็ด ภายใน 24-72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นอีก 12 ชั่วโมง รับประทานอีก 1 เม็ด แบบนี้จะช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ แต่อาจเกิดปัญหาการลืมรับประทานยาเม็ดที่สอง ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

2. รับประทานยาทันที 2 เม็ด ภายหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ภายใน 24-72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แบบนี้จะช่วยลดการลืมรับประทานยา แต่อาจเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์ด้านคลื่นไส้ อาเจียน บางครั้งแนะนำให้รับประทานยาแก้คลื่นไส้ อาเจียน เช่น metoclopramide หรือ domperidone 1 ชั่วโมงก่อนหน้ารับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน

หากมีเพศสัมพันธ์หลังจากนี้ ก็ต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินอีก หรือใช้ถุงยางอนามัย เนื่องจากตัวยาครอบคลุมการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านี้เท่านั้น

ข้อมูลยา คือไม่ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 ครั้ง ต่อเดือน เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดภาวะประจำเดือนผิดปกติ หรือ ตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ แต่ข้อมูลที่มีการศึกษาวิจัย คือ ไม่ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินเกินกว่า 3 ครั้ง ตลอดชีวิต เนื่องจากตัวยามีฮอร์โมนค่อนข้างสูง การที่ร่างกายสัมผัสกับฮอร์โมนขนาดสูง ๆบ่อย ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อเต้านม มดลูก หรือรังไข่ โดยพบอัตราเสี่ยงการเกิดมะเร็ง มากกว่าสตรีที่รับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติ หรือ สตรีที่ไม่เคยได้รับฮอร์โมนจากยาคุมกำเนิดมาก่อน

จากข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณให้มานั้น น่าจะใช้วิธีสวมถุงยางอนามัยจะปลอดภัยกว่าทั้งฝ่ายชายและหญิง โดยนอกจากช่วยในการคุมกำเนิดแล้ว ยังลดโอกาสในการสัมผัสโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองใน (แท้หรือเทียม) เอดส์ หรือพยาธิไตรโคลโมนาส ตับอักเสบ บีและซี เป็นต้น และยังช่วยลดความเสี่ยงในการถ่ายเทไวรัสที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก (HPV) หรือ หูดหงอนไก่อีกด้วย หรือช่วงนี้น่าจะทุ่มเทไปที่การเรียนก่อนจะดีกว่านะครับ ยังมีโอกาสดี ๆรออยู่ภายหน้า หากรักกันจริง น่าจะรอได้ครับ

เป็นกำลังใจให้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากอาจารย์หมอของเราครับ

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency contraceptive pill) โดย รศ.ดร.นพ.บัณฑิต ชุมวรฐายี