กระดานสุขภาพ

ช่วยผมด้วยครับ ผมเป็นแผลที่อวัยวะเพศมานาน แต่ตกลงผมเป็นอะไรกันแน่
Anonymous

14 มีนาคม 2557 21:32:04 #1

คือผมจะเล่า จากตอนเป็นแผลครั้งแรก เริ่มแรกก่อนเลยนะครับ

เมื่อช่วงกลางเดือน มกราคม 57  ได้เกิดแผลนี้ขึ้นกับผม

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-1.jpg

ผมอยู่ที่โคราชนะครับ ผมไปหา คลินิค กามโรค ที่นึง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ผมบอกว่า หมอท่านนี้รักษามานานน่าจะเก่งมาก

ผมไปหาเสร็จแล้ว เขาดูแผลผม แค่ 2วินาที แล้วบอกว่าผมเป็นเริม

เขาให้ยา รักษาเริมมา ยี่ห้อ siam อ่ะครับไม่รุ้ชื่อ  กับยาเม็ดสีฟ้า ไว้ใช้ ตำให้ละเอียด และทาใส่แผล

ผมก็กินยาไปได้เกือบอาทิตนึง  ก็ไม่หายแถมแผลยังหนักขึ้น เจ็บกว่าเดิมมากๆ

แล้วผมก็มาศึกษาหาข้อมูลในเน็ตเกี่ยวกับแผลพวกนี้

ผมเลยไปปรึกษากับเภสัชประจำ ว่าผมเป็นเริม แต่ หมอที่ผมไปหา ให้ยานี้ กับยานี้มาตำใส่แผล

เภสัชก็บอกว่า หมอจัดยาแย่มาก  

เภสัชก็เลยจัดยารักษาเริมให้ใหม่ แล้วก็ยาทาแผล  พวกAciclovir ไรงี้แหละครับ

ลองซื้อแบบกินดู 2-3วัน ปรากฎว่า ไม่หาย ไม่ดีขึ้นเลย

ผมก็เลย ไปหาหมออีกที แต่เปลี่ยนคลินิค ไปเป็นคลินิค แถวบ้าน และเล่าให้เขาฟังตั้งแต่แรก

แต่หมอก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าผมเป็นอะไร เลย ฉีดยาให้ผม ตรวจเลือด และ นำเชื้อไปเพาะ

ในตอนนั้นเองผมรู้สึก เจ็บปวดกับแผลและท้อแท้มากๆ แต่ผมก็ไม่รู้จะไปที่ไหนอีก 

แผลผมตอนนั้น ได้รุกรามและใหญ่ขึ้นจนเป็นแบบนี้ครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-2.jpg

ผมไม่รู้จะทำยังไง

ผมเข้าเว็ปเปิดเน็ตทั้งวัน จนไปเจอเฟสบุ้คของ  คลิกนิคสุขภาพชาย ศูนวิจัยโรคเอดส์สภากาชาติ

ผมส่งรูปนี้ให้เขาดู เขาก็บอกว่า ผมเป็น แผลริมอ่อน ไม่ใช่เริม

ผมก็งงเลย แล้วทำไม หมอคนแรกที่ผมรักษา ถึงบอกว่าผมเป็นเริมหละ

และดูจากแผล น่าจะแพ้ยา ที่ตำแล้วทาแผล ตั้งแต่ตอนแรก ทำให้เป็นแบบนี้

หมอเลยให้ผมไปซื้อยา  azithromycin  4เม็ด ทานครั้งเดียวตอนท้องกับ

ควบกับ Metronidazole เป็นเวลา 7 วัน

ปรากฎว่า ทานไป 1-2 วันแรก

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-3.jpg

แผลผมดีขึ้นมากๆ จนครบ 7 วัน แผลหายจะสนิทเลยครับ

แล้วในที่สุด ผมก็กลับกลาย มาเป็นคนปกติ ผมมีความสุขมากครับ

ที่ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมาได้

อยู่ได้มาอีก อาทิตนึง

จนได้มาเกิด แผลใหม่ เข้าอีกที

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-4.jpg

ผมก็ส่งรูปไปให้คลินิกเหมือนเดิมครับ

เขาบอกว่า น่าจะเป็นแผลอักเสบธรรมดา ให้ซื้อยาแก้อักเสบมาทาน

ผมก็ทานยาปกติ +กับ ใช้ยาทา bactroban ทาบ้าง

ผ่านไป 1 อาทิต แผลยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้น

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-5.jpg

แล้วก็มีสีขาวๆ มาคลุมแผลอย่างที่เห็นครับ

ผมเลยคิดว่า ผมน่าจะเป็น ริมอ่อน อีกครั้ง

ผมจึงซื้อยารักษาริมอ่อนมาทาน ผมทานยา azithromycin แค่ 2เม็ด ที่เหลือจากกล่องเก่า

และทานยา ciprofloxacin  ติดต่อกัน 3 วัน  เกินด้วยซ้ำครับ ควบกับ metronidazole

ปรากฎว่า ไม่หายครับ

จนผมปล่อยให้มันหายไปเอง

แล้วแผลมันหายไปเองจริงๆด้วยครับ

 

แต่ปรากฎว่า พอแผลหายปุ้บ  ผมกลับพบแผลใหม่ขึ้นมาอีกแล้วครับ เหมือนผุดมาแทนแผลเก่าเลยแค่ย้ายที่

เหมือนในตัวผมมีเชื้อ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-5.jpg

แล้วผมก็ไปหาหมอ ครั้งนี้ผมไปหาหมอที่ โรงบาลแห่งนึงนะครับ

ผมก็เล่าให้ฟังตั้งแต่แรก หมอก็ไม่แน่ชัดว่าผมเป็นอะไรอีก เลยฉีดยา

และให้ ciprofloxacin มาทาน ทั้งๆที่ผมเคยบอกว่า ทานไปแล้ว

 

ผมก็เห้อ จ่ายตังค่ายา แล้วกลับมานั่งกลุ้มเหมือนเดิมครับ

ลองกินยาต่อดู 2วันก็ไม่ดีขึ้นเลย แถมเหมือนจะมีตุ่มแผลเกิดขึ้นมาอีก

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-6.jpg

ผมหมดกำลังใจมากๆ ผมอยากไปหาหมออีก แต่ก้กลัวจะเปนเหมือนเดิม

จะไป ต่างจังหวัดก้ไกล ผมไม่ได้เป็นคนมีมากมายอะไร

 

ว่าตกลงผมเป็นอะไรกันแน่ ผมเป็นริมอ่อน หรือผมเป็นเริม 

หรือแผลเก่าเป็นริมอ่อน แต่แผลใหม่ ผมจะเป็นเริม

ช่วยให้คำตอบและรายละเอียดกับผมทีนะครับ ผมจะขอบคุณมากๆ 

ผมจะรอครับ 

 

อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 182ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.60 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

15 มีนาคม 2557 17:18:40 #2

เรียน ท่านผู้ถาม

เว็บ haamor.com รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ไว้ใจต่อการตอบคำถามจากคณะ แพทย์ เภสัชกร และบุคลากรทางการแพทย์สาขาต่างๆจากเว็บฯของเรา คณะของเรามีความเห็นร่วมกันว่า เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้ถามเอง ทางเว็บhaamor.com จึงขออนุญาต เปลี่ยน username ของท่าน เป็น 72c8d ด้วยชื่อที่ได้จากการสุ่มโดยระบบอัตโนมัติจากทางเว็บฯคะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์
บรรณาธิการฝ่ายแพทย์

Anonymous

16 มีนาคม 2557 05:07:12 #3

ยังริคำตอบอยู่นะครับ

Anonymous

16 มีนาคม 2557 13:14:27 #4

แก้ไขภาพครับ

 

คือผมจะเล่า จากตอนเป็นแผลครั้งแรก เริ่มแรกก่อนเลยนะครับ
เมื่อช่วงกลางเดือน มกราคม 57 ได้เกิดแผลนี้ขึ้นกับผม

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-1.jpg


ผมอยู่ที่โคราชนะครับ ผมไปหา คลินิค กามโรค ที่นึง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ผมบอกว่า หมอท่านนี้รักษามานานน่าจะเก่งมาก
ผมไปหาเสร็จแล้ว เขาดูแผลผม แค่ 2วินาที แล้วบอกว่าผมเป็นเริม
เขาให้ยา รักษาเริมมา ยี่ห้อ siam อ่ะครับไม่รุ้ชื่อ กับยาเม็ดสีฟ้า ไว้ใช้ ตำให้ละเอียด และทาใส่แผล
ผมก็กินยาไปได้เกือบอาทิตนึง ก็ไม่หายแถมแผลยังหนักขึ้น เจ็บกว่าเดิมมากๆ
แล้วผมก็มาศึกษาหาข้อมูลในเน็ตเกี่ยวกับแผลพวกนี้
ผมเลยไปปรึกษากับเภสัชประจำ ว่าผมเป็นเริม แต่ หมอที่ผมไปหา ให้ยานี้ กับยานี้มาตำใส่แผล
เภสัชก็บอกว่า หมอจัดยาแย่มาก
เภสัชก็เลยจัดยารักษาเริมให้ใหม่ แล้วก็ยาทาแผล พวกAciclovir ไรงี้แหละครับ
ลองซื้อแบบกินดู 2-3วัน ปรากฎว่า ไม่หาย ไม่ดีขึ้นเลย
ผมก็เลย ไปหาหมออีกที แต่เปลี่ยนคลินิค ไปเป็นคลินิค แถวบ้าน และเล่าให้เขาฟังตั้งแต่แรก
แต่หมอก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าผมเป็นอะไร เลย ฉีดยาให้ผม ตรวจเลือด และ นำเชื้อไปเพาะ
ในตอนนั้นเองผมรู้สึก เจ็บปวดกับแผลและท้อแท้มากๆ แต่ผมก็ไม่รู้จะไปที่ไหนอีก
แผลผมตอนนั้น ได้รุกรามและใหญ่ขึ้นจนเป็นแบบนี้ครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-2.jpg

ผมไม่รู้จะทำยังไง
ผมเข้าเว็ปเปิดเน็ตทั้งวัน จนไปเจอเฟสบุ้คของ คลิกนิคสุขภาพชาย ศูนวิจัยโรคเอดส์สภากาชาติ
ผมส่งรูปนี้ให้เขาดู เขาก็บอกว่า ผมเป็น แผลริมอ่อน ไม่ใช่เริม
ผมก็งงเลย แล้วทำไม หมอคนแรกที่ผมรักษา ถึงบอกว่าผมเป็นเริมหละ
และดูจากแผล น่าจะแพ้ยา ที่ตำแล้วทาแผล ตั้งแต่ตอนแรก ทำให้เป็นแบบนี้
หมอเลยให้ผมไปซื้อยา azithromycin 4เม็ด ทานครั้งเดียวตอนท้องกับ
ควบกับ Metronidazole เป็นเวลา 7 วัน
ปรากฎว่า ทานไป 1-2 วันแรก

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-3.jpg


แผลผมดีขึ้นมากๆ จนครบ 7 วัน แผลหายจะสนิทเลยครับ
แล้วในที่สุด ผมก็กลับกลาย มาเป็นคนปกติ ผมมีความสุขมากครับ
ที่ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมาได้
อยู่ได้มาอีก อาทิตนึง
จนได้มาเกิด แผลใหม่ เข้าอีกที

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-4.jpg


ผมก็ส่งรูปไปให้คลินิกเหมือนเดิมครับ
เขาบอกว่า น่าจะเป็นแผลอักเสบธรรมดา ให้ซื้อยาแก้อักเสบมาทาน
ผมก็ทานยาปกติ +กับ ใช้ยาทา bactroban ทาบ้าง
ผ่านไป 1 อาทิต แผลยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้น

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-5.jpg


แล้วก็มีสีขาวๆ มาคลุมแผลอย่างที่เห็นครับ
ผมเลยคิดว่า ผมน่าจะเป็น ริมอ่อน อีกครั้ง
ผมจึงซื้อยารักษาริมอ่อนมาทาน ผมทานยา azithromycin แค่ 2เม็ด ที่เหลือจากกล่องเก่า
และทานยา ciprofloxacin ติดต่อกัน 3 วัน เกินด้วยซ้ำครับ ควบกับ metronidazole
ปรากฎว่า ไม่หายครับ
จนผมปล่อยให้มันหายไปเอง
แล้วแผลมันหายไปเองจริงๆด้วยครับ

แต่ปรากฎว่า พอแผลหายปุ้บ ผมกลับพบแผลใหม่ขึ้นมาอีกแล้วครับ เหมือนผุดมาแทนแผลเก่าเลยแค่ย้ายที่
เหมือนในตัวผมมีเชื้อ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-6.jpg

แล้วผมก็ไปหาหมอ ครั้งนี้ผมไปหาหมอที่ โรงบาลแห่งนึงนะครับ
ผมก็เล่าให้ฟังตั้งแต่แรก หมอก็ไม่แน่ชัดว่าผมเป็นอะไรอีก เลยฉีดยา
และให้ ciprofloxacin มาทาน ทั้งๆที่ผมเคยบอกว่า ทานไปแล้ว

ผมก็เห้อ จ่ายตังค่ายา แล้วกลับมานั่งกลุ้มเหมือนเดิมครับ
ลองกินยาต่อดู 2วันก็ไม่ดีขึ้นเลย แถมเหมือนจะมีตุ่มแผลเกิดขึ้นมาอีก

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72c8d-10890-7.jpg

ผมหมดกำลังใจมากๆ ผมอยากไปหาหมออีก แต่ก้กลัวจะเปนเหมือนเดิม
จะไป ต่างจังหวัดก้ไกล ผมไม่ได้เป็นคนมีมากมายอะไร

ว่าตกลงผมเป็นอะไรกันแน่ ผมเป็นริมอ่อน หรือผมเป็นเริม
หรือแผลเก่าเป็นริมอ่อน แต่แผลใหม่ ผมจะเป็นเริม
ช่วยให้คำตอบและรายละเอียดกับผมทีนะครับ ผมจะขอบคุณมากๆ
ผมจะรอครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

16 มีนาคม 2557 15:59:54 #5

จากประวัติและจากรูปที่ส่งมา น่าจะเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง จะมีอาการหลังมีความเสี่ยงทางเพศ ประมาณ 3-7 วัน แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ซึ่งภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ สำหรับแผล ให้ทำความสะอาดโดยใช้น้ำเกลือซึ่งซื้อตามร้านขายยา ล้างเช้าเย็น และก่อนนอน

โดยปกคิแล้ว การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง เริ่มด้วยตุ่มใสๆ แตกเป็นแผลตื้นๆ และจะหายใน 7-10 วัน สำหรับคนที่แผลหายช้าหรือเป็นรุนแรง อาจเป็นเพราะมีภูมิต้านทานต่ำก็ได้

สำหรับประเด็นเรื่องการรักษาที่ผ่านมา ผมคงให้ความเห็นไม่ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผลที่เป็นขณะนั้น รวมทั้งประวัติทางเพศสัมพันธ์

ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังครับ

นพ. อนุพงศ์