กระดานสุขภาพ

เครียดอ่าาาา T^T
Anonymous

23 กุมภาพันธ์ 2557 02:49:21 #1

มีเพศสัมพันธ์โดยใส่ถุงยางอนามัยนะคะ แต่ถุงยางดันขาด แบบ ขาดตรงปลายเลยค่ะ ขาดไม่รุตัว พอแฟนหลั่งในเสร็จแล้ว ดึงออกมา ปรากฎว่าขาดตรงหัว แล้วก้อมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดด้วย คิดว่าน่าจะเป็นน้ำอสุจิที่หลั่ง เหนแล้วก้อตกใจมาก แฟนรีบไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้กิน เรากังวลมาก กินไป 2 เม็ดพร้อมกันเลยค่ะ กินหลังมีเพศสัมพันธ์ 1 ชั่วโมง กินตอน 5 โมงเย็น พอตอนเช้ามา เครียดจัด กินไปอีก 1 เม็ดตอนตี 4 กว่าๆ แบบนี้จะมีโอกาสท้องมากมั้ยคะ ((เป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนพึ่งมาวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ แล้วมีอะไรกันวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เป็นช่วงไข่ตกรึป่าวคะ ))  

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.10 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

25 กุมภาพันธ์ 2557 04:17:49 #2

ในช่วงดังกล่าว หากวันที่ 11 กุมภาพันธ์นั้น เป็นประจำเดือนวันแรก ก็ถือว่า เป็นช่วงตกไข่ครับ การทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ แต่หมอคิดว่า ไม่จำเป็นนะครับ ที่ต้องทานเม็ดที่สามไปอีก เพราะไม่ได้ช่วยให้ประสิทธิภาพมากขึ้น ยังอาจทำให้ผลข้างเคียงมากขึ้นครับ

Anonymous

25 กุมภาพันธ์ 2557 05:33:23 #3

แล้วแบบนี้โอกาสตั้งครรภ์ก้อสูงใช่มั้ยคะคุณหมอ แล้วหนูจะทำยังไงดีคะคุณหมอ เครียดมากก ใจเต้นแรงทุกวันเลย ช่วงนี้ช่วงสอบด้วยค่ะ แล้วเคสที่ผ่านๆมา หลั่งในแล้วกินยาคุมฉุกเฉินส่วนมากท้องมั้ยคะ? ((ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ))

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

25 กุมภาพันธ์ 2557 15:09:28 #4

อย่างที่หมอกล่าวไป วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงแล้วครับ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 90 % ครับ

Anonymous

26 กุมภาพันธ์ 2557 01:28:51 #5

หลังจากกินยาไปวันนี้ก้อวันที่ 5 แล้วค่ะ แต่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆเกิดขึ้นเลยค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ไป 15 วันสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เลยมั้ยคะ แล้วถ้าตั้งครรภ์ร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมนhcg กี่วันหลังจากปฏิสนธิคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

27 กุมภาพันธ์ 2557 09:00:30 #6

โดยปกติแล้ว hCG จะเริ่มสร้างและสามาตรตรวจพบได้ในกระแสเลือดและปัสสาวะประมาณ 5-7 วันหลังปฎิสนธิ แต่เราไม่สามารถทราบได้ว่า วันที่ตกไข่และปฎิสนธิวันใดได้อย่างแน่ชัดนะครับ ในทางการแพทย์เราจึงใช้วันประจำเดือนรอบสุดท้ายในการกำหนดวันทึ่ควรจะตรวจ โดยสรุป หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ควรจะตรวจในช่วงที่ประจำเดือนควรจะมาแล้วไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ครับ

Anonymous

27 กุมภาพันธ์ 2557 11:03:22 #7

หมอคะ ตอนนี้วันที่6 แล้ว มีเลือดออกจากช่องคลอดอ่ะค่ะ มานิดเดียว ตอนแรกสีน้ำตาล ซักพักสีแดง แล้วหายไปเลยค่ะ อันนี้คือผลจากยาหรือเลือดล้างหน้าเด็กกันแน่คะ หนูเครียดมาก ไปอ่านเจอในเน็ตเค้าบอกว่า เลือดล้างหน้าเด็กจะออกมาหลังจากปฏิสนธิวันที่6-12 แต่ตอนเลือดออกไม่มีอาการใดๆเลยค่ะ ปวดท้องก้อไม่มี หนูงง ตอบหนูหน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆล่วงหน้าค่ะ T-T

Anonymous

28 กุมภาพันธ์ 2557 05:13:36 #8

คุณหมอคะวันนี้มีเลือดออกเป็นสีแดงเข้มๆเกือบดำออกมาพร้อมลิ่มเลือดด้วยค่ะ แต่ไม่เยอะเท่าประจำเดือนแต่ก้อไม่น้อย แต่ไม่มีอาการปวดท้อง หรือคัดเต้านมเลยนะคะแค่หน่วงๆ นี่คืออาการข้างเคียงของยาใช่มั้ยคะ ?

Anonymous

28 กุมภาพันธ์ 2557 05:26:13 #9

คุณหมอคะหนูร้อนใจมากๆเลยค่ะ เลยอยากทราบว่าตรวจครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์กี่วันคะถึงจะรู้ผลแน่ชัด 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

1 มีนาคม 2557 05:12:00 #10

ในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ ซึ่งหมอคิดว่า เลือดที่ออกมานั้น เป็นเลือดที่เป็นผลของยาเม็ดคุมกำเนิดครับ

ส่วนคำว่า เลือดล้างหน้าเด็กนั้น (Implantation bleeding) ในทางการแพทย์คือ เลือดที่ออกจากการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฎิสนธิของอสุจิและไข่ บริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ในช่วงหลังตกไข่ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือ หลังประจำเดือนรอบสุดท้ายประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นเลือดออกจางๆ ปริมาณเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ผิดปกติอะไรครับ แต่ปัญหาอาจทำให้สับสนว่า เป็นเลือดประจำเดือนที่มาผิดปกติหรือไม่ ซึ่งการแยกอาจดูจากลักษณเลือดออก หรือ อาจตรวจปัสสวะในช่วงวันที่ประจำเดือนขาดไปประมาณข่วง 4 สัปดาห์หลังประจำเดือนรอบสุดท้าย หากเป็นผลบวกหรือตั้งครรภ์ ก็ถือว่าเป็น เลือดล้างหน้าเด็กครับ

ดังนั้น จากลักษณะเลือดที่ออกมานั้น หมอคิดว่า เป็นผลของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนะครับและหากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

Anonymous

2 มีนาคม 2557 03:19:58 #11

คุณหมอคะ หนูมีเรื่องสงสัยค่ะ ทำไมมีเลือดที่ออกจากช่องคลอดที่เป็นผลข้างเคียงของยาที่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกลอกแล้ว ทำไมถึงยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อยู่ล่ะคะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

3 มีนาคม 2557 09:42:42 #12

เลือดทึ่ออกมานั้นเป็นผลจากปริมาณฮอร์โมนที่ได้รับเข้าไปจากยาเม็ดคุมกำเนิดในปริมาณที่สูง ทำให้เกิดการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกแต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังสามารถที่จะทำให้มีการฝังตัวของตัวอ่อนได้ แต่โอกาสจะน้อย ดังนั้น การที่มีเลือดออกมาหรือไม่มี ไม่ได้เป็นการบ่งบองถึงการป้องกันว่าจะสำเร็จหรือไม่เท่านั้นครับ

Anonymous

5 มีนาคม 2557 10:32:42 #13

ขอบคุณค่ะคุณหมอ แสดงว่าหนูต้องรอวันที่ 11 มี.ค(เพราะปจด.เดือนที่แล้ว 11 ก.พ.) ใช่มั้ยคะถึงจะตรวจปัสสาวะได้ แล้วตรวจวันที่ 11 ผลตรวจแน่ชัดไหมคะ ?

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

8 มีนาคม 2557 05:37:52 #14

ตรวจในช่วงนี้ ผลตรวจจะเชื่อถือได้ครับ และหากต้องการความสบายใจอาจตรวจซ้ำอีกในอีก 1 สัปดาห์ต่อมาครับ หากประจำเดือนยังไม่มา

Anonymous

8 มีนาคม 2557 14:03:57 #15

คุณหมอคะ หนูตรวจปัสสาวะเช้าวันนี้ (หลังจากมีเพศสัมพันธ์  15 วัน) ผลออกมาขีดเดียว เชื่อได้มั้ยคะ? (พอดีหนูใจร้อนอ่ะค่ะ) 

Anonymous

11 มีนาคม 2557 01:26:26 #16

เพิ่มเติมค่ะหมอ วันนี้ก้อตรวจปัสสาวะตอนเช้า ผลปรากฏว่า ขีดเดียว อย่างงี้เชื่อได้รึยังคะ ?