กระดานสุขภาพ
| มีปัญหากับอวัยวะเพศหญิงค่ะ | |
|---|---|
|
18 กุมภาพันธ์ 2557 09:26:37 #1 สวัสดีค่ะ ดิฉันอายุ 20 ปี เพศหญิง เรียนอยู่ค่ะ มีปัญหาเกียวกับอวัยวะเพศได้ร่วมเดือนแล้วค่ะ คือทีแรกก็ปกติค่ะ จู่ๆประมาณ 2-3อาทิตย์ที่แล้วหนูมีอาการคันภายในและบริเวณรอบๆปากอวัยวะเพศ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จนมันมีตุ่มขึ้นบริเวณรอบๆอวัยวะเพศค่ะ คล้ายๆกับแผลร้อนในประมาณ 4-5 เม็ด ฉี่ออกมาทั้งปวดทั้งแสบมากๆ ไปซื้อยาหมอเค้าให้ยา Lermex 800 มาให้ทานวันละ 1 เม็ด 5 วัน แล้วก็ยา zevin cream มาทารอบๆแผลค่ะ พอยาหมดอาการก็เริ่มทุเลาแต่ไม่หายขาดยังมีอาการคันๆอยู่ จนมาถึงวันนี้ก็เกิดเหตุการณ์เดิมค่ะ มีตุ่มขึ้น แสบมาก ตอนนี้เหมือนจะเจ็บกว่าเดิมแล้วก็คันเหมือนเดิม ลืมบอกไปตั้งแต่วันแรกที่เป็นถึงวันนี้จะมีน้ำออกมาจากอวัยวะเพศตลอดเวลา เหมือนหนอง ต้องทำอย่างไรดีคะ ตอนนี้เป็นกังวลมาก ช่วยตอบกลับด้วยนะคะ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงล่วงหน้าค่ะ |
|
| อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.07 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
19 กุมภาพันธ์ 2557 09:24:51 #2 ในตัวยาทั้งทานและทาที่กล่าวมานั้น เป็นตัวยา aciclovir ซึ่งยานี้ เป็นยาต้านเชื้อไวรัส ซึ่งจะใช้ในโรคเริม (herpes simplex) เป็นต้นครับ ซึงโรคนี้ เป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการจะเป็นแผลตุ่มใส ไม่เจ็บ มักเป็นกลุ่มๆ แต่จะไม่มีลักษณะเป็นผื่นแดงหรือปื้นๆเเดงนะครับ และ ต่ำแหน่งมักจะอยู่บริเวณด้านนอกช่องคลอด ไม่ได้เข้าไปในช่องคลอด อาการทางช่องคลอด เช่น ตกขาวไม่ควรจะมี ดังนั้น จากลักษณะอาการที่กล่าวมา หมอคิดว่า เป็นอาการของเชื้อรานะครับ อย่างไรก็ตามหมอแนะนำให้มาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อนจะดีกว่าครับ |
Look*****t |
19 กุมภาพันธ์ 2557 10:42:02 #3 ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ ถ้าหากหนูยังไม่อยากไปพบหมอตอนนี้ พอจะซื้อยารับประทาน หรือยาทาอะไรได้บ้างรึเปล่าคะ คือ ตอนฉี่หนูแสบมากๆเลยค่ะ มันจะมีคันเป็นช่วงๆ บางช่วงก็คันบางช่วงก็ไม่คัน ตอนนี้มีตุ่มขึ้นอีกแล้วค่ะ หากอะไรไปโดนหรือโดนกางเกงชั้นในนี่จะเจ็บๆแสบๆมากเลยค่ะ พอจะมีวิธีรักษาเบื้องต้นมั้ยคะ หนูยังไม่พร้อมไปพบหมอเลย ขอบคุณล่วงหน้าเป็นอย่างสูงค่ะ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
21 กุมภาพันธ์ 2557 14:00:55 #4 ในเบื้องต้น หากมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดและลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ หมอแนะนำให้ทายาในกลุ่มของ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ซึ่งยานี้เป็นยาต้านเชื้อราที่สำคัญต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบของรอยโรค เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ซึ่ ส่วนหากมีตกขาวที่มีลักษณะผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดเช่นกันครับ ซึ่ง การรักษาหลักนั้น ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ ปกติแล้วจะมีอาการดีขึ้นภายใน 3-4 วันครับ แต่หากใช้ยานี้แล้วไม่ดีขึ้น ควรมาพบแพทย์โดยด่วนนะครับ เพราะ เชื้อราจะตอบสนองต่อยานี้อย่างดี อาการจะดีขึ้น อาการคันต่างๆจะน้อยลงในไม่เกิน 1 สัปดาห์ครับ ส่วนในเรื่องปัสสาวะหากมีอาการแสบขัด หรือ มีอาการไข้ หนาวสั่นร่วม ก็เป็นอาการแสดงของการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะนะครับ ควรมาพบแพทย์เช่นเดียวกัน |
Anonymous