กระดานสุขภาพ

ไม่นิ่ง และโรคฮีรอยด์
Anonymous

3 มิถุนายน 2556 03:33:50 #1

1. น้องมีลักษณะที่ไม่นิ่ง จึงทำให้มีผลกับการเรียนรู้ และเรียนในห้องเรียน ทำให้ทำงานไม่ทัน ตอนนี้เรียนชั้น ป. 1 ยิ่งเรียนหนักขึ้น จึงทำให้น้องไม่ทันเพื่อนค่ะ สามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้างค่ะ

2. น้องเป็นโรคฮีรอยด์ ก่อนหน้านี้น้องเป็นอีสุกอีใสแล้วทำให้เกิดแผลเป็นปูดนูนขึ้นมาทั้งเล็ก และใหญ่หลายจุด ไม่ทราบว่ามียา หรือวัคฉีนฉีดให้แผลเป็นยุบลง หรือสามารถทำให้หายเป็นฮีรอยด์ได้หรือไม่ค่ะ

ขอพระคุณค่ะ

คุณแม่ลูกหนึ่ง

อายุ: 6 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 23 กก. ส่วนสูง: 112ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.34 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
พ*****

4 มิถุนายน 2556 06:30:23 #2

  1. ต้องรับการตรวจและประเมินโดยจิตแพทย์เด็กว่าเป็นโรคสมาธิสั้นหรือไม่ ซึ่งการรักษาผู้ปกครองต้อวเคร่วครัดในการฝึกปฏิบัติและปรับพฤติกรรมเด๋กร่วมกับทางโรงเรียนค่ะ ส่วนการให้ยาเพื่อควบคุมสมาธิขค้นดุลยพินิจของแพทย์ค่ะ
  2. คีรอยด์ คือแผลเป็นที่นูนขึ้น การรักษาอาจใช้ยากลุ่มเสตอรอยด์ฉีดบริเวณที่เป็น หรือถ้าขนาดใหญ่มากต้องผ่าตัดออกแล้วเย็บแผลใหม่ค่ะ
Anonymous

4 มิถุนายน 2556 10:13:53 #3

1. ตอนนี้ได้คุยกับคุณครูประจำชั้นของน้อง ว่าต้องช่วยกันทั้งทางคุณแม่ และคุณครู ก็ว่าจะลองดูซักระยะ แต่ถ้าคุณแม่ไม่มีเวลาจะสามารถหาครูสอบพิเศษ ให้กับน้องเพิ่มจะเป็นการเรียนที่หนักไปมั้ยค่ะ ตอนนี้ว่าจะพาไปเรียนที่วัดกับพระอาจารย์ ก็จะมีการฝึกสมาธิ สอนพระพุทธศาสนา และวิชาการอื่น ๆ จะสามารถช่วยให้น้องมีสมาธิมากขึ้นด้วยหรือไม่ค่ะ

2. คีรอยด์ แผลที่นูนประมาณปลายนิ้วก้อยเด็กถ้าไม่ใช้ยาหรือผ่าออก เมื่อน้องโตขึ้นแผลจะโตตามด้วยหรือไม่ และจะเป็นอันตรายอะไรมั้ยค่ะ และคีรอยด์นี้สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

คุณแม่ลูกหนึ่ง

พ*****

5 มิถุนายน 2556 13:59:33 #4

1. หมอยังคงแนะนำให้ไปพบแพทย์จิตเวชเด็กและวัยรุ่นหรือ กุมารแพทย์เชี่ยวชาญพัมนาการเด็กเพราะต้องประเมินความสามารถในด้านการเรียน ความรับผิดชอบ และในบางรายอาจต้องใช้ยาช่วย การฝึกสมาธิก้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยค่ะ แต่ในเด็กเล็กความเข้าใจต่อการทำสมาธิอาจจะน้อย แต่ทำได้ค่ัะ ส่วนการสอนเพิ่มเติมให้ดูในวิชาที่เขาเรียนได้ไม่ดี ขาดการเข้าใจและทำงานให้เสร็จตามที่ครูกำหนดก็พอค่ะ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะเครียด

2. แผลเป็นคีรอยด์จะมีขนาดโตขึ้นตามพื้นที่ผิวของเด็กถ้าอ้วนขึ้นจะเห็นชัดเจนขึ้น ไม่เป็นอันตรายและไม่ก่อมะเร็งเพียงแต่มองดูไม่สวยงาม รักษาให้หายด้วยการใช้ยาฉีดเข้าตรงแผลเป็น หรือการทำเลเซอร์ผิวหนังถ้าขนาดเล็ก