จากรายงานและการศึกษาต่างๆ ทูดหงอนไก่ที่เกิดขึ้นที่บริเวณช่องปาก หรือที่บริเวณต่อมทอนซิล พบได้น้อยมาก สำหรับในประเมศไทยไม่ได้มีการศึกษาแต่ข้อมูลเท่าที่มีอยู่คือพบได้น้อยมาก ในกรณีที่เป็นจะต้องมีการทำออรัลเซ็กส์กับคนที่เป็นหูดโดยไม่ได้ป้องกัน การวินิจฉัยโรคอาจจะดูจากลักษณะของติ่งเนื้อร่วมกับการตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางห้องแล็บ ถ้ามีการตัดชิ้นเนื้อในตำแหน่งที่สงสัยว่าจะเป็น ผลการอ่านหรือการวินิจฉัยก็น่าจะเชื่อถือได้ สำหรับการรักษานั้นมีหลายวิธี เช่นการผ่าตัด การใช้ไฟฟ้าจี้หรือใช้ความเย็นจัดจี้ให้เชือดหูดตาย ถ้าทำได้หมดก็หายขาดได้ ในกรณีของแฟนคุณที่ได้มีการตรวจครั้งแรกว่าไม่ใช่หูดซึ่งยืนยันโดยการตรวจชิ้นเนื้อ ส่วนที่ได้หาหมออีกแห่งหนึ่ง คงต้องรอผลการตัดชิ้นเนื้อ ถ้าผลเหมือนกัน ก็น่าจะไม่ใช่หูด การดูจากสายตาอาจจะไม่แน่นอน แต่ถ้าพบว่าเป็นหูด ก็คงต้งอรักษาซ้ำ แนะนำว่าให้หาหมอตาม รพ ของรัฐบาลหรือ รพ. โรงเรียนแพทย์ เช่น ศิริราช รามา จุฬา

ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ แฟนตัดสินใจที่จะไม่ให้คุณหมอตัดชิ้นเนื้อตรวจแล้วค่ะ แต่จะทำการตัดต่อมทอนซิล เนื่องจากแฟนมีปัญหาเรื่องนอนกรน และต่อมทอนซิลอักเสบอยู่บ่อยๆ ไม่ทราบว่าการตัดต่อมทอนซิลทิ้งจะมีปัญหาสุขภาพในภายภาคหน้าหรือเปล่าค่ะ อีกหนึ่งคำถามค่ะคุณหมอ หากแฟนเป็นหูดที่ต่อมทอนซิล ในกรณีที่มีการจูบกัน สามารถติดต่อได้หรือไม่ค่ะ ขอบพระคุณคุณหมออีกครั้งค่ะ

ขอแยกตอบเป็น 2 กรณีค่ะ เนื่องจากต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 2 ส่วนในการตอบ

กรณีที่ 2

ส่วนใหญ่แล้ว การที่มีหูดในช่องปากหรือบริเวณคอจะเกิดจากการที่มีการทำออรัลเซ็กส์คือมีการใช้ปากหรือลิ้นสัมผัสกับอวัยวะเพศของคู่นอนที่มีหูด ส่วนการจูบนั้นยังคงไม่มีหลักฐานแน่นอนว่าสามารถติดต่อกันได้ แต่มีการศึกษาว่าถ้ามีการจูบแบบดูดดื่มโดยมีการใช้ลิ้นไชเข้าไปในช่องปากของอีกฝ่ายหรือที่เรียกว่า French Kiss ก็อาจจะติดต่อได้

ข้อ1 ตัดต่อมทอนซิลออกไปแล้วไม่มีผลเสียต่อสุขภาพครับ
ต่อมทอนซิลเป็นส่วนหนึ่งของต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอที่มีอยู่เป็นร้อยๆต่อม ถ้าแพทย์พิจารณาชั่งน้ำหนักแล้วทิ้งไว้มีผลเสียต่อร่างกายมากกว่าก็ควรตัดออก