กระดานสุขภาพ

ต่อมทอนซิลอักเสบ ฉีดและทานยาครบโดสแล้วยังไม่หาย
Mint*****k

3 มิถุนายน 2557 15:26:43 #1

เปนมาสองอาทิดคับ ทานยา amoxilyn/clavur ไม่รู้เขียนถูกรึป่าว บวกกับฉีดยา แรกๆ อาการดีขึ้นมาแต่สองสามวันมานี้เหมือนเริ่มกลับมาเจ็บอีก บวกกับมีต่อมน้ำเหลืองโตเล็กน้อยที่ท้ายทอยสองสามที่  ผมมีความกังวลเรื่อง hiv ตามที่เคยตั้งคำถามครับสองสามครั้งในบอรดเพศศึกษานะครับ ตอนนี้คิดว่าเป็นแล้วแน่ อาการมันใช่เลย แต่ผมถ้าต้องผ่าตัดต่อมทอนซิลจะไม่ขอตรวจ hiv ได้หรือไม่ครับ ขอขอบพระคุนครับ

อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 74 กก. ส่วนสูง: 167ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.53 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

4 มิถุนายน 2557 13:38:36 #2

การติดเชื้อเอดส์มีได้ 3 ทาง

1. ทางเพศสัมพันธ์ โดยไม่ป้องกัน

2. ทางเข็มฉีดยาหรือการรับเลือด

3. ทารกติดเชื้อจากแม่ในขณะตั้งท้อง

ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยง ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นเอดส์ แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น เที่ยวผู้หญิง มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง แนะนำให้ตรวจเลือดโดยใช้สิทธิ์ที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่ต้องเสียเงิน การรักษาด้วยยาต้านไวรัสในปัจจุบันมีความก้าวหน้ามาก ถ้ากินยาสม่ำเสมอ อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ พยาบาล จะมีชีวิตและสุขภาพที่แข็งแรงเหมือนคนทั่วๆไป และในประเทศไทย รักษาฟรีครับ ส่วนเรื่องทอนซิลอักเสบไม่น่าจะเกี่ยวกับการติดเชื้อเอดส์ เป็นการติดเชื้อของต่อมทอนซิล ซึ่งถ้ามีอาการเรื้อรังอาจต้องตัดออก แนะนำให้หาหมอระบบ หู คอ ครับ

Mint*****k

5 มิถุนายน 2557 02:45:51 #3

แล้วต่อมน้ำเหลืองที่ท้ายทอยล่ะคับคุนหมอ เกี่ยวกับทอนซิลอักเสบไหมคับ เพราะอาการมันเหมือนคนมีเชื้อ hiv เลย ผมทั้งโทถาม 1663 เขาบอกผมไม่เสี่ยงเลย ทั้งตั้งกระทู้ใน phanarak.com หลายคนก้อบอกไม่น่าติด ตอนนี้เริ่มโดนด่าแล้วด้วย รู้สึกตอนนี้ไม่เจบคอแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าใช่ต่อมน้ำเหลือหรือป่าวเพราะมันสมมาตรมีเหมือนกันสองข้าง คลึงดูแล้วมันไม่กลิ่้ง เหมือนมีอะไรนูนๆ ไม่เจ็บ แต่ผมจับถูมันมากจนถลอกแล้วคับตอนนี้ แล้วคนไม่มีเชื้อ hiv จะมีต่อมน้ำโตที่ท้ายทอยได้หรือไม่ครับ ขอบคุนคุนหมอคับ

ผมเครียดมากจิงๆ เครียดจนบางทีอยากฆ่าตัวตาย สำคัญคือผมยังไม่กล้าไปตรวจเลือดเลยคับ กลัว

Haamor Admin

(Admin)

5 มิถุนายน 2557 17:04:56 #4

เรียน คุณ mint_kk

ทีมงานขออนุญาตลบลิ้งค์เว็บไซต์อื่นออกนะคะ เพราะการกล่าวถึงบุคคลที่ 3 เป็นการขัดต่อคำแนะนำของแพทยสภาคะ ซึ่งทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ mint_kk ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมคะ

Mint*****k

6 มิถุนายน 2557 16:20:12 #5

ครับ รบกวนตอบหน่อยคับหมอ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 มิถุนายน 2557 00:13:53 #6

ตามที่ได้ตอบไปแล้ว ถ้ามีความเสี่ยงอย่างใดอย่างหนึ่ง คือเพศสัมพันธ์ เข็มฉีดยา เคยรับเลือดบริจาค ก็ควรจะไปตรวจเลือดตามสิทธิที่มี เช่น บัตรทอง หรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยงก็ไม่มีโอกาสเป็นเอดส์ ส่วนที่ถามเรื่องต่อมน้ำเหลือง มีโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่นการอักเสบบริเวณผิวหนังที่คอ โรคอื่นๆที่เกียวข้องกับการติดเชื้อไวรัสอื่นหรือแบคทีเรียอื่นก็ได้ เราะฉะนั้น คุณต้องประเมินตัวคุณเองว่าเสี่ยงหรือไม่ ถ้าเสี่ยงก็ตรวจเอดส์ ในปัจจุบันการรักษาโรคเอดส์ก้าวหน้ามาก และรู้เร็ว รักษาเร็ว ก็จะมีมีสุขภาพดีเหมือนคนทั่วๆไป และที่สำคัญ ประเทศไทยรักษาฟรีด้ดวยครับ