กระดานสุขภาพ

ขอความรู้เกี่ยวกับยาแก้ปวดไมเกรนค่ะ
Joy*****y

25 พฤศจิกายน 2556 03:59:56 #1

ดิฉันมีอาการปวดไมเกรนค่ะ แต่ไม่บ่อยนัก นอกเสียจากตอนมีประจำเดือน  แต่ปวดไม่มาก บางคัร้งก็ไม่ได้ทานยาปล่อยให้หายเอง  แต่บางครั้งที่เจอสิ่งเร้า เช่นอากาศร้อน ก็จะปวดมาก  ทราบมาว่ายารักษาอาการปวดไมเกรนนี้มี 2 ประเภท  ประเภทแรกที่ดิฉันใช้อยู่ด้วยคือ ยาพวก คาร์ฟากอต แต่ทราบมาว่ามีผลต่อตับในระยะยาว อีกประเภทหนึ่งแพงมาก จำไม่ได้ว่าเป็นประเภทไหน เคยพบแพทย์ที่ รพ.  แพทย์สั่งจ่ายยาตัวที่เป็นแคปซู, สีแดงเทา  อันนี้คือยาประเภทใดคะ ปัจจุบันจึงซื้อยานี้ที่ร้านขายยามาติดไว้ค่ะ ตัวคาร์ฟากอตนั่น หลังๆทานแทบจะไม่ได้ผล  และเวลาที่ปวด เราเอาน้ำแข็งประคบศีรษะได้ไหมคะ อยากให้คุณหมอแนะนำยาสำหรับระงับอาการไมเกรนที่มีผลข้างเคียงระยะยาวน้อยสุดค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

อายุ: 36 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.89 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

26 พฤศจิกายน 2556 12:29:49 #2

เรียน คุณ Joy,

จากข้อมูลการศึกษา สันนิษฐานว่าอาการปวดศีรษะไมเกรน เกิดจากเลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลง ร่างกายจึงหลั่งสารเคมีที่ช่วยทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองขยายตัว

เพื่อเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงเนื้อสมอง แต่หลอดเลือดที่ขยายมากเกินไปจะไปเบียดเนื้อสมอง ทำให้เกิดอาการปวดไมเกรน หรือ หากใกล้เคียงกับก้านสมอง ก็จะทำให้เกิดอาการคลี่นไส้อาเจียนด้วย ทางการแพทย์จะใช้ยากลุ่ม Ergot (ตัวอย่างชื่อการค้า Cafergot, Avamigran) มีคุณสมบัติทำให้หลอดเลือดหดตัว จึงช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้ แต่ยานี้มีข้อควรระวังพิเศษ

  • ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเกิน 6 เม็ดต่อวัน หรือ 10 เม็ดต่อสัปดาห์
  • หากจำเป็นต้องรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆควรปรึกษาเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เนื่องจาก Ergotamine เกิดปฏิกิริยาระหว่างยาได้มากและรุนแรง ทำให้หลอดเลือดส่วนปลายหดตัว มือ เท้า ชา เย็นลง หรือเขียว หากรุนแรงมากจะทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลาย เช่น มือ เท้า จนอาจเกิดเนื้อตายได้

ส่วนหนึ่งที่คุณรับประทานยานี้แล้วได้ผลไม่เหมือนเดิม อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไม่ได้เป็นไมเกรน แต่เป็นอาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือ ปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียด

หรือ เมื่อเกิดอาการคุณไม่ได้ลดปัจจัยที่กระตุ้นอาการไมเกรน เช่น ไม่ได้นอนพัก หลีกเลี่ยงแสงจ้า เสียงดัง อาการจึงไม่ดีขึ้น หากอาการแย่ลงหรือรุนแรงขึ้นควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่ถูกต้องต่อไป

ส่วนยาแคปซูล สีแดง-เทา สันนิษฐานว่าเป็นตัวยา flunarizine ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือด เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง มีหลายข้อบ่งใช้ ทั้งเรื่องเวียนศีรษะ น้ำในหูไม่เท่ากัน หรือป้องกันอาการปวดไมเกรน โดยป้องกันที่ต้นเหตุที่เกิดจากหลอดเลือดหดตัว แล้วขยายตัวเบียดเนื้อสมอง จึงต้องรับประทานตลอด ยกเว้นช่วงที่มีอาการปวดไมเกรน มิฉะนั้นจะต้านฤทธิ์กัน Ergot ออกฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่วน flunarizine ทำให้หลอดเลือดขยายตัว

หากรับประทานยา flunarizine เพื่อป้องกันแล้วยังคงมีอาการมากขึ้นหรือรุนแรงขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางนะครับ เพื่อหาสาเหตุ ส่วนยาที่ใช้ป้องกันมีหลายกลุ่มครับ แต่ต้องให้แพทย์สั่งให้นะครับ

ควรสังเกตตัวเองว่าเกิดอาการปวดไมเกรนเมื่อมีปัจจัยใดกระตุ้น วิธีดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น ความเครียด อดนอน ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีน (ชา กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม)

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

 

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราครับ

ไมเกรน (Migraine) โดย แพทย์หญิง สลิล ศิริอุดมภาส

Joy*****y

27 พฤศจิกายน 2556 03:40:26 #3

ขอบคุณคุณหมอสำหรับคำแนะนำค่ะ  และขอบคุณสำหรับการแนะนำบทความค่ะ