เรียน คุณ b119d,

ก่อนตอบคำถามของคุณ ขออนุญาตให้ข้อมูลเกี่ยวกับการคัดเลือกยาคุมกำเนิดให้เหมาะกับรูปร่างและรูปแบบการมีประจำเดือนนะครับ คือ

1. ผู้ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเด่นชัด มักมีรูปร่างอกเอวชัดเจน รูขุมขนค่อนข้างเล็ก ขนไม่ดกหรือขนบาง ๆ ผิวค่อนข้างแห้งหรือผิวผสม ประจำเดือนมักมาปริมาณมาก (อาจต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยวันละหลายแผ่น) หรือมาติดต่อกันหลายวัน (เช่น 5-7 วัน) แบบนี้ควรเลือกยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณโปรเจสตินค่อนข้างเด่น หรือเลือกยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณเอสโตรเจนค่อนข้างต่ำ เพื่อให้เกิดสมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกาย

2. ผู้ที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินเด่นชัด มักมีรูปร่างสูงใหญ่ อกเอวไม่ชัดเจน ผิวค่อนข้างมัน หน้ามัน เป็นสิวง่าย ขนดก หรือหนา ประจำเดือนมาปริมาณไม่มาก (อาจใช้ผ้าอนามัยวันละ 1 แผ่นก็พอ) ประจำเดือนมาจำนวนวันน้อย (อาจเพียง 2-3 วันก็หมด) แบบนี้ควรเลือกยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเด่นชัด หรือยาคุมที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนโปรเจสตินด้วย เพื่อให้เกิดสมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกาย

กลับมาที่คำถามของคุณ ยาคุม Mi... มีปริมาณเอสโตรเจนค่อนข้างต่ำ คือ 15 ไมโครกรัม ส่วนยาคุม Yaz มีปริมาณเอสโตรเจน 20 ไมโครกรัม จึงอาจเป็นไปได้ที่เกิดจากเอสโตรเจนที่เพิ่มปริมาณมา

หรือเกิดจากยาคุม M... ที่มีปริมาณฮอร์โมนต่ำ และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง จนทำให้ประจำเดือนมาล่าช้า หรือไม่มาตามปกติได้ หรืออาจเกิดจากปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนทำให้ระดับยาคุมกำเนิดลดระดับลงจนเกิดอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือนได้ ดังนั้นต้องไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกันโดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรนะครับ

หากอาการรุนแรงขึ้น หรือยังคงมีเลือดออกกะปริบกะปรอยตลอดเดือน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาอีกครั้ง เพื่อปรับเปลี่ยนชนิดของยาคุมกำเนิดให้เหมาะสมกับคุณต่อไป

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)

แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์

ยาที่ลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications)
ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม