กระดานสุขภาพ

ยาชนิดเดียวกัน แต่ทำไมกินแล้วไม่เหมือนกันคะ
Cutt*****e

6 พฤศจิกายน 2560 17:05:06 #1

เคยกินยาปฏิชีวะนะค่ะ ยี่ห้อนึงกินแล้วไม่มีอาการอะไร แต่บางยี่ห้อพอกินแล้วมีอาการคัน บางยี่ห้อกินแล้วมีอาการคล้ายกรดไหลย้อน และบางยี่ห้อก็คันช่องคลอดมีน้ำขาวๆไหลออกมา อันนี้เกิดจากอะไรคะ นี่คือสังเกตมาหลายแล้วครั้งนะคะ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวค่ะ ขอบคุณค่ะ
อายุ: 33 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 77 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 28.28 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

7 พฤศจิกายน 2560 15:44:08 #2

เรียน คุณ Cuttie,

เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลมาว่าเป็นยายี่ห้อใด และแต่ละครั้งเป็นตัวยาเดียวกัน รักษาโรคเดียวกันหรือไม่ ขออนุญาตให้ข้อมูลโดยรวมนะครับ

ยาปฏิชีวนะ ในที่นี้ส่วนใหญ่หมายถึงยาที่กำจัดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนไวรัสกับเชื้อราจะเป็นเพียงยาต้านการเจริญเติบโต ไม่ให้แบ่งตัวเพิ่ม ภูมิต้านทานของร่างกายจึงช่วยกำจัดเชื้อไวรัสหรือเชื้อราออกไป จนไม่สามารถทำให้เกิดโรคได้ (ยกเว้นเชื้อไวรัสที่ไปซ่อนอยู่ตามอวัยวะหรือส่วนต่าง ๆของร่างกาย เช่น ไวรัสเอดส์ที่ไปซ่อนอยู่ในเม็ดเลือดขาว ไวรัสเริม/งูสวัดที่ไปซ่อนอยู่ตามปมประสาทของร่างกาย เป็นต้น)

ยาปฏิชีวนะแบ่งได้มากมายหลายชนิด และหลายรูปแบบ เช่น เพนิซิลลิน เดตร้าซัยคลิน เซฟาโลสปอริน เป็นต้น อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาเกิดได้กับยาทุกตัว เพียงแต่ว่าจะมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด บางครั้งอาจน้อยจนผู้ป่วยไม่รู้สึกผิดปกติ หรือบางครั้งอาจรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรืออาจเกิดอาการแพ้ยาได้ เช่น ผืน คัน ผื่นลมพิษ หน้าบวม ปากบวม หายใจขัด เป็นต้น

ส่วนใหญ่ยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อในวงกว้าง (ฆ่าเชื้อได้มากมายหลายสายพันธ์ุ) มักมีผลต่อเชื้อประจำถิ่น ซึ่งเป็นเชื้อที่ส่งผลดีต่อร่างกาย เช่น ทำให้บริเวณลำไส้ไม่เหมาะที่เชื้อก่อโรคจะเจริญเติบโตได้ (แลคโตบาซิลลัส แอลแลมโนซัส เป็นต้น)

หรือทำให้ช่องคลอดมีภาวะเป็นกรด ป้องกันไม่ให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ เป็นต้น

เมื่อคุณได้รับยาปฏิชีวนะทีออกฤทธิ์กว้าง เช่น เพนิซิลลิน เตตร้าซัยคลิน ควิโนโลน ฯ ย่อมกำจัดเชื้อดีประจำถิ่นออกไปด้วย (ซึ่งเชื้อดีพวกนี้ถูกกำจัดได้ง่ายกว่า เนื่องจากมักไม่ค่อยดื้อยา) จึงอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ท้องอืด แน่นท้อง ผายลมบ่อย จนถึงท้องเสีย ถ่ายเหลว หรือเกิดตกขาวจากช่องคลอด เป็นต้น หรือบางตัวยาที่อาจทำให้รู้สึกเหมือนโรคกรดไหลย้อน มักพบในยาที่เป็นแคปซูล ตัวยามีฤทธิ์เป็นกรด หากคุณดื่มน้ำน้อย อาจทำให้แคปซูลติดกับหลอดอาหาร และปลดปล่อยตัวยาเข้มข้นเฉพาะจุด จึงทำให้เกิดการระคายเคืองได้

ดังนั้น หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรประจำสถานพยาบาลได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจข้อมูลที่เพียงพอ หรืออาจช้าไป ไม่ทันการ เสี่ยงต่อการไม่ได้รับผลการรักษาตามต้องการ หรืออาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

 

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

หลักการใช้ยาปฏิชีวนะ (Effective use of antibiotics)

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์

ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)

เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร

Cutt*****e

7 พฤศจิกายน 2560 17:09:03 #3

หนูเคยไปร.พ. แล้วพยาบาลซักประวัติแพ้ยาค่ะ แล้วก็เลยถามเค้าว่า เวลากินยาปฏิชีวะนะ ทำไมถึงคันช่องคลอดแล้วก็มีน้ำขาวๆ แต่คำตอบที่ได้คือ เข้าใจผิดว่าเป็นเพราะยาหรือเปล่า อาการที่เป็นน่าจะเป็นเพราะกินของหมักดองนะไม่ใช่ยา แต่ส่วนตัวไม่ค่อยกินและแทบจะไม่กินเลยค่ะ ก็เลยคาใจมาตลอดค่ะ แล้วในกรณีที่ยามันไปฆ่าเชื้อเจ้าถิ่นแบบนี้ หนูควรเปลี่ยนยามั้ยคะ หรือว่าต้องทำยังไงบ้างคะ ป.ล. ชอบเว็บนี้มากค่ะ จะว่าไปก็ขี้สงสัยเยอะแยะไปหมด แต่ก็อ่านไว้เพราะอยากรู้ทันอะค่ะ ว่าถ้ามีอาการอะไรขึ้นมาควรทำยังไงบ้างไรงี้อะค่ะ
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

8 พฤศจิกายน 2560 04:42:30 #4

เรียนคุณ Currie

คำถามนี้คงตอบได้ยากครับ เพราะขึ้นกับตัวบุคคลด้วย ทั้งเรื่องสภาวะร่างกาย โรคประจำตัวอื่นๆ การรับประทานอาหาร อากาศ การออกกำลังกาย ความเครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เครียดเรื่องงาน เป็นต้น จึงส่งผลให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ต่ออวัยวะต่างๆ

ส่วนเรื่องอาการกรดไหลย้อน ต้องดูว่าดื่มน้ำตามมากๆหรือไม่ รับประทานอาหารรสจัดหรือต้องไปงานเลี้ยง บุฟเฟ่ต์ ทานเยอะๆ หรือเวลามื้อเย็นใกล้กับมื้อก่อนนอนเกินไป

สรุป หากมีอาการผิดปกติ ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อพิจารณาแนวทางป้องกัน แก้ไข หรือ ปรับเปลี่ยนยาที่เหมาะสมต่อไป

เภสัชกร ประดิษฐ์ งามศิริผล