การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะทำให้รอบเดือนมีความเคลื่อนได้ นอกจากนี้ อาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้ด้วย ควรใช้ในกรณีที่มีความจำเป็นเท่านั้นและไม่ใช้บ่อยครั้งหรือเกิน 2 ครั้งต่อเดือน เพราะจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติได้

1. ประจำเดือนที่จะมาอีกรอบอาจจะไม่ถึงวันที่ 25 มีนาคม เพราะขณะนี้เกิดความคลาดเคลื่อนแล้วจึงตอบไม่ได้แน่นอนว่าประจำเดือนครั้งต่อไปจะมาเมื่อไร แต่ถ้ารอถึงปลายเดือนยังไม่มาควรพบแพทย์เพือ่รับการรักษาแพทย์จะให้ฮอร์โมนมารับประทาน โดยถ้ายังไม่อยากตั้งครรภ์ ช่วงนี้จะต้องคุมกำเนิดอย่างดีโดยการสวมถุงยางอนามัย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ฮอร์โมนเพราะจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้
2. โอกาสตั้งครรภ์น่าจะเป็น 0% ถ้าหลังจาก 18 มกราคมไม่มีเพศสัมพันธ์อีกเลย และคุณก็มีประจำเดือนมาแล้วในช่วงวันที่ 28 มกราคม
3. ปัจจุบันแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์จากการตรวจปัสสาวะมีความไวสูงมาก ปริมาณฮอร์โมน hCG เพียง 10 mIU/ml ก็สามารถตรวจพบแล้ว ดังนั้น สามารถซื้อมาตรวจได้ด้วยตนเองเลยค่ะ ทั้งนี้ จะต้องตรวจอย่างถูกวิธีคือเก็บปัสสาวะตรวจในช่วงเช้าด้วยนะคะ
4. การติดเชื้อราหรือ candida มีสาเหตุมาจากความอับชื้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการไม่มีประจำเดือน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงความอับชื้น ทำความสะอาดทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ ใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางแล้วเปลี่ยนทิ้งบ่อยๆในช่วงที่มีสิ่งคัดหลั่งออกมามากทางช่องคลอดเพื่อป้องกันการติดเชื้อราซ้ำซ้อนเรื่อยๆ ค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ หลัง 18 มกราคม ไม่มีเพศสัมพันธ์อีกเลยค่ะ ตอนวันที่ 11 มีนา ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจ เเล้ว ไม่ได้ตั้งครรภ์ตั้งครรภ์ค่ะ แต่ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลย ค่ะ