เรียน คุณ bc6ba,

โดยหลักการการรับประทานยารักษาสิวที่เป็นกรดวิตามินเอนั้น ต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัด แนะนำว่าควรใช้การสวมถุงยางอนามัยจะปลอดภัยและไม่มีปฏิกิริยาระหว่างยาคุมกำเนิดกับกรดวิตามินเอ
ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ทั้งชนิดปกติและชนิดฉุกเฉิน โดยเฉพาะยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีปริมาณฮอร์โมนเพศสูงกว่าชนิดปกติ คือ 1500 ไมโครกรัม เทียบกับชนิดปกติ 50-75 ไมโครกรัม และมีอัตราเสี่ยงในการตั้งครรภ์ค่อนข้างสูง คือ 8-25 เปอร์เซ็นต์

ดังนั้นควรใช้การสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง (ศึกษาวิธีการสวมถุงยางอนามัยที่ถูกต้องเหมาะสมได้จาก Youtube มีหลายสถานีนะครับ ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ) นอกจากช่วยการคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน (หนองในเทียม) พยาธิในช่องคลอด ไวรัสเริม ไวรัสตับอักเสบชนิดบี/ซี หรือโชคร้ายอาจติดเชื้อเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ ที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาด และยังช่วยป้องกันไวรัส เอชพีวี (HPV - Human Papillomavirus) ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง และ หูดหงอนไก่ หรือมะเร็งองคชาติในเพศชาย

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่่ทันการ เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเกิดอันตรายต่อสุขภาพของคุณจนถึงแก่ชีวิตได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)

แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา

สูตินรีแพทย์

สิว (Acne)

แพทย์หญิง ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล

แพทย์โรคผิวหนัง

ยาไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin)

เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร