กระดานสุขภาพ

การเลือกกินยาคุมกำเนิด
Anonymous

17 กันยายน 2560 06:30:37 #1

พอดีจะทานยาคุมครั้งแรกค่ะ *เหตุผลที่กิน 1.ปรับฮอโมนร่างกาย รักษาสิว ฝ้า ต่างๆ 2.การคุมกำเนิด เพราะตลอดเวลาที่คบกันมา 3 ปี แฟนใส่ถุงตลอด กลัวมีผลระยะยาว เพราะใส่ถุงบ่อย **ควรกินยาคุมประเภทไหน พอดีเป็นเจ้าเนื้อค่ะ เคยอ้วนจาก 56 ก.ก. ตอนนี้ 48 ก.ก. สูง 156 ซ.ม. และขาใหญ่พอสมควรค่ะ ***วิธีรับประทานยาคุมต้องทานยังไงค่ะ เพื่อให้ยาคุมมีประสิทธิภาพ การลดสิว ฝ้า รักษาโฮโมน ป้องกันการคุมกำเนิด
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.72 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

24 กันยายน 2560 17:43:23 #2

เรียน คุณ bbc72,


ขอแยกตอบตามข้อสงสัยนะครับ

1. การใช้ถุงยางอนามัยระยะยาว ไม่มีผลใด ๆนะครับ ถ้าคุณทั้งคู่ไม่ได้แพ้ยางหรือสารหล่อลื่น นอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน (หนองในเทียม) พยาธิในช่องคลอด ไวรัสเริม ตับอักเสบ ชนิด บี/ซี หรือโชคร้ายสุด คือ เอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ รวมถึงช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี (HPV - human Papillomavirus) ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง และ หูดหงอนไก่/มะเร็งองคชาติในเพศชายอีกด้วย

2. การเลือกรับประทานยาคุมกำเนิด ต้องพิจารณาว่ามีข้อห้ามใช้ใดๆหรือไม่ เช่น มีก้อนเนื้อที่เต้านม มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด ประวัติลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือด โดยเฉพาะที่ขา โรคตับ เป็นต้น

จากนั้นให้พิจารณาจากลักษณะรูปร่างและรูปแบบของการมีประจำเดือน

- ฮอร์โมนเอสโตรเจนเด่น

- รูปร่างเป็นผู้หญิง อกเอวชัดเจน รูขุมขนค่อนข้างเล็ก ผิวค่อนข้างแห้ง ขนไม่ดก รูปแบบการมีประจำเดือน มักมาครั้งละหลายวัน (5-7 วัน) และปริมาณค่อนข้างมาก (อาจต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยวันละหลายครั้ง)
กรณีนี้แพทย์มักเลือกยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินเด่น และเอสโตรเจนน้อย (15-25 ไมโครกรัม) เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนเพศของร่างกาย

- ฮอร์โมนโปรเจสตินเด่น รูปร่างค่อนข้างตรง อกเอวไม่ชัดเจน ผิวค่อนข้างมัน รูขุมขนกว้าง ขนดก เป็นสิวง่าย ประจำเดือนมักมาปริมาณน้อย หรือมาน้อยวัน
กรณีนี้เหมาะกับยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเด่น เพื่อปรับสมดุลให้กับร่างกาย

3. การรับประทานยาคุมกำเนิด คล้ายกัน คือ

- แผงแรกให้รับประทานยาวันแรกที่มีประจำเดือน เพื่อให้ตัวยายับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้งแต่รับประทานยาเม็ดแรกครบ 24 ชั่วโมง (หรือช้าสุดไม่เกินวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน) ส่วนแผงต่อไป ถ้าเป็นชนิด 21 เม็ด ก็นับไปอีก 7 วัน หลังจากรับประทานยาเม็ดสุดท้าย จึงค่อยเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ ส่วนชนิด 28 เม็ด ก็ให้รับประทานเม็ดแป้ง 7 เม็ด หรือ 4 เม็ด แล้วแต่ประเภทของยาคุมกำเนิด จนหมด แล้วจึงเริ่มรับประทานยาแผงต่อไป

- การรับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อประสิทธิภาพ ต้องรับประทานยาให้สม่ำเสมอ ไม่ขาดยา โดย
รับประทานยาในช่วงเวลาเดียวกันของทุกวัน แนะนำให้เป็นก่อนนอน เพื่อป้องกันการลืมรับประทานยา และลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง โดยคลาดเคลื่อน +/- ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระดับยาสม่ำเสมอตลอดวัน
รับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เครื่องดื่มอื่น ๆอาจทำให้ตัวยาตกตะกอน ลดการดูดซึมยา เช่น นม (โยเกิร์ตพร้อมดื่ม) น้ำนมถั่วเหลือง ชา กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม โซดา หรือน้ำผลไม้บางชนิดจะเร่งการกำจัดยาที่ตับ เช่น น้ำส้มคั้น น้ำเกรปฟรุต น้ำแอปเปิ้ล น้ำแครนเบอร์รี เป็นต้น

ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

3. การรับประทานยาเพื่อปรับฮอร์โมน แล้วแต่ประเภทของยา ส่วนเรื่องสิว เลือกประเภทที่ลดการสร้างน้ำมันบนใบหน้า ส่วนเรื่องฝ้าพบได้ในเกือบทุกตัวยาคุมกำเนิด ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด เลือกชนิดที่ป้องกันยูวี (SPF 30 ขึ้นไป) และ อินฟราเรด (PA+++)
กางร่ม หรือสวมหมวกเพื่อป้องกัน

เรื่องน้ำหนักเพิ่ม พบได้บ่อยเช่นกัน เนื่องจากเอสโตรเจน จะทำให้มีการเก็บกักเกลือ เพื่อทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวลแบบผู้หญิง จึงต้องเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสเค็ม หรือเกลือโซเดียมมาก แม้จะไม่มีรสเค็ม เช่นผงปรุงรส อาหารสำเร็จรูป อาหารหมักดอง สาหร่ายอบ/ทอด เป็นต้น

สามารถสอบถามรายละเอียดตัวยาแต่ละยี่ห้อ ราคา รวมถึงวิธีการใช้โดยละเอียดได้จากร้านยาที่มีเภสัชกรใกล้บ้าน

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

 

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)

แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา

สูตินรีแพทย์

ยาที่ลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control

medications)

ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม

เภสัชกร