กระดานสุขภาพ

ยาสตรีสมุนไพร , วิตามิน และยาคุมกำเนิด
Anonymous

17 สิงหาคม 2560 15:16:39 #1

ปกติเคยทานยาคุมอยู่แล้วค่ะ แต่เพิ่งหยุดยาคุมได้1เดือนเนื่องจากไปรับประทานยาสตรีสมุนไพร พวกที่ไว้ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีน่ะค่ะ อยากทราบว่า ถ้าหยุดทานยาสตรีสมุนไพรแล้ว เมื่อประจำเดือนมาอีกครั้งสามารถทานยาคุมได้ตามปกติเลยไหมคะ แล้วยาสมุนไพรนี่จะส่งผลกับยาคุมไหมคะ -ปกติทานวิตามินอยู่หลายตัวเลยค่ะ อยากเรียนถามคุณหมอว่าวิตามินแต่ละชนิดควรทานเวลาไหนบ้าง และสามารถทานคู่กับยาคุมได้ไหมคะ วิตามินที่ทานได้แก่ วิตามินC , วิตามิน B รวม , อีฟนิ่งพริมโรส , น้ำมันปลา , วิตามินE , อะเซโรล่าเชอร์รี่ และคอลลาเจนค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.07 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

23 สิงหาคม 2560 18:47:01 #2

เรียน คุณ a79aa,

ขอแยกตอบเป็น 2 ประเด็นนะครับ

1. หากประจำเดือนมาตามปกติแล้ว สามารถรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานทุกวันได้เลยครับ โดยให้รับประทานเหมือนยาแผงแรก คือ

- เริ่มรับประทานยาวันแรกที่มีประจำเดือน เพื่อให้ตัวยาฮอร์โมนยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้งแต่รับประทานยาเม็ดแรกครบ 24 ชั่วโมง หรือหากช้ากว่านั้น ต้องไม่เกินวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน เพื่อให้ตัวยายังคงออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้งแต่ช่วง 7 วันแรกของรอบประจำเดือน หากช้าเกินกว่านั้น ไม่แนะนำนะครับ เนื่องจากเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

- รับประทานยาสม่ำเสมอ ในเวลาใกล้เคียงกันของทุกคืน +/- ไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระดับตัวยาสม่ำเสมอทุกวัน และป้องกันการลืมรับประทานยา

- รับประทานยาทุกชนิดด้วยน้ำเปล่าสะอาด (ยกเว้นว่าแพทย์หรือเภสัชกรจะระบุเป็นอย่างอื่น) เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิดจะทำให้ตัวยาตกตะกอน เช่น ชา กาแฟ (รวมถึงชาเขียว ชานม) โกโก้ นม (รวมถึงโยเกิร์ตพร้อมดื่ม) นมถั่วเหลือง โซดา น้ำอัดลม เป็นต้น หรือน้ำผลไม้บางชนิดจะเร่งให้ตับที่เป็นแหล่งกำจัดของเสีย มีการสร้างเอนไซม์หรือน้ำย่อยที่ใช้เผาผลาญยาเพิ่มขึ้น ตัวยาจึงถูกกำจัดได้มากหรือเร็วขึ้น เช่น น้ำส้มคั้น น้ำเกรปฟรุต น้ำแอปเปิ้ล หรือน้ำแครนเบอร์รี่ เป็นต้น

- ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน "ยาตีกัน" จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเกิดอันตรายถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้

2. ข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คุณให้มานั้น ไม่ได้มีรายละเอียดความเข้มข้นของตัวยา รูปแบบยา หากจะใ้หแนะนำคือรับประทานเฉพาะวิตามิน ซี เพียงอย่างเดียวก็พอแล้ว ขนาดที่ใช้ทั่วไป คือ ครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ยกเว้นว่ามีข้อห้ามใช้หรือข้อควรระวังพิเศษ เช่น มีแผลในทางเดินอาหารที่กำลังมีอาการหรือมีเลือดออกรุนแรง รับประทานยาที่ขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะ (จะทำให้กรดยูริกไปตกตะกอนที่ไตแทน)

ส่วนตัวอื่น ๆนั้น หากคุณสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ไม่ได้มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบดูดซึมหรือเผาผลาญอาหาร ไม่ต้องใส่สายยางป้อนอาหาร ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานวิตามินอื่น ๆ เพราะนอกจากคุณจะได้รับจากอาหารที่ครบ 5 หมู่อยู่แล้ว การรับประทานมากเกินยังอาจสะสมจนเกิดอาการพิษได้ เช่น

- น้ำมันปลา จะทำให้เสี่ยงต่อการเลือดหยุดไหลยาก หรือประจำเดือนมาผิดปกติได้

- Evening primrose oil และ ยาสมุนไพรสตรี ก็มีส่วนประกอบของ phytoestrogen คือฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรเจน แต่ได้รับจากพืชแทน จึงออกฤทธิ์เสริมหรือต้านกับฮอร์โมนในยาคุมกำเนิด อาจทำให้เกิดอาการมดลูกบีบตัวมากเกิน หรือเลือดประจำเดือนมาผิดปกติ หรือเสี่ยงต่อการเกิดก้อนเนื้องอก/ซีสต์ที่เต้านมหรือมดลูกได้

- วิตามินบีรวม ได้จากอาหารจำพวกแป้งไม่ขัดสี (ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต โฮลเกรน)

- คอลลาเจน ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง โดยอาศัยกรดอะมิโนจากอาหารโปรตีนที่ได้รับเข้าไป ร่วมกับวิตามิน ซี เกิดเป็นโครงสร้างคอลลาเจน การรับประทานคอลลาเจนสำเร็จ ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้โดยตรง ต้องผ่านกระบวนการย่อยเป็นกรดอะมิโนเล็ก ๆ แล้วจึงเข้าไปผ่านกระบวนการสังเคราะห์ขึ้นมาใหม่ที่ตับ ที่เป็นแหล่งในการกำจัดของเสีย หรือ อนุมูลอิสระ ดังนั้นหากตับของคุณทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือ ได้รับวิตามิน ซีไม่เพียงพอ ร่างกายก็ไม่สามารถนำไปสังเคราะห์ขึ้นมาได้

สรุปไม่มีความจำเป็นต้องสิ้นเปลืองไปกับค่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพียงแต่ปฏิบัติตามสุขบัญญัติ

- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้น ผักสด ผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด (น้ำตาลจะเป็นตัวทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังให้เสียโครงสร้า่งไป ไม่มีความยืดหยุ่น ตึงตัว) โปรตีนจากเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ (เช่น เนื้อไก่ไม่เอาหนัง เนื้อปลาทะเล (ก็จะได้น้ำมันปลาตามธรรมชาติอยู่แล้ว) เน้นแป้งไม่ขัดสี (เพื่อให้ได้วิตามิน และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน)

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย วันละ 30 นาที และ 5 วันต่อสัปดาห์
เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี มีการไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆของร่างกาย ช่วยกำจัดของเสียออกทางเหงื่อ เพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย มีการหลั่งเอนดอร์ฟินที่เป็นฮอร์โมนแห่งความสุข

- อากาศที่ดี หากมีโอกาส ก็ควรไปสูดอากาศที่สวนสาธารณะบ้าง

- พักผ่อนให้เพียงพอ ควรเข้านอนก่อนเวลา 23.00 น. เนื่องจากช่วง เที่ยงคืนถึงตีสอง ต่อมใต้สมองจะมีการหลั่ง Growth Hormone ที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย มีการนำความคิดเรื่องราวตลอดวันมาเรียบเรียงเก็บเป็นความทรงจำระยะยาว การอดนอนหรือนอนดึกจะทำให้ร่างกายเกิดสภาวะเครียด (ยังไม่นับรวมถึงเรื่องเครียดต่าง ๆระหว่างวัน ทั้งเรื่องการงาน เรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว) ทำให้ต่อมหมวกไตมีการหลั่งฮอร์โมนเครียด "คอร์ติซอล" ซึ่งเป็นสารจำพวกสเตียรอยด์ จะทำให้ร่างกายมีการเก็บกักสารอาหาร เพื่อเอาชีวิตรอด เช่น เกลือโซเดียม (ทำให้บวมน้ำ ความดันโลหิตสูง) เกลือแคลเซียม (ทำให้เกิดภาวะกระดูกบาง กระดูกพรุน) น้ำตาล (เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานหรือไขมันในเลือดสูง) เป็นต้น

หากปฏิบัติได้ตามนี้แล้ว คุณจะพบว่าสามารถ "สวย รวย สุขภาพดี"
ได้ โดยที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ชื่อก็บอกแล้วว่าเสริมจากอาหารปกติ (* ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นกับแต่ละบุคคล และระยะเวลาการรับประทาน)

กรณีมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทันการ เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

 

 

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)

แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์

ยาลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications)

ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม
เภสัชกร

คอลลาเจน (Collagen)

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์

คอลลาเจน มหัศจรรย์จริงหรือ ? (ตอนที่ 1)

โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล

ยาสตรี ยาสตรีไม่ใช่ยาทำแท้ง (Tonic herb for women)

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

วิตามิน (Vitamin)

เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร