กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนกับการทานยาคุมกำเนิด
Kano*****g

27 กุมภาพันธ์ 2556 16:41:58 #1

คือทานยาคุมยี่ห้อ minidoz ค่ะเป็นยาคุมแบบ 28 

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.42 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Kano*****g

27 กุมภาพันธ์ 2556 16:48:32 #2

โทษทีค่ะ ขออนุญาติถามต่อนะคะ คือทานยาคุมยี่ห้อ minidoz ค่ะเป็นยาคุมแบบ 28 เม็ดเป็นแผงแรก ตอนนี้ทานหมด 24 เม็ดที่เป็นเม็ดฮอร์โมนแล้วค่ะ วันรุ่งขึ้นมีเลือดออกน้อยมากๆไม่แน่ใจว่าคือประจำเดือนหรือเปล่าคะ ก่อนหน้านี้มีอาการเลือดออกกระปิดกระปอยมาประมาณ 18 วันนับจากทานยาเม็ดแรกค่ะ หลังจาก 18 วันนั้นก็เหมือนเป็นคราบเลือดที่จางมากๆ จนมาทานหมด 24 เม็ดฮอร์โมนจึงมีเลือดออกเหมือนตอนที่มีเลือดออกกระปอดกระปอยอีก จึงไม่แน่ใจว่าคือประจำเดือนหรือเป็นผลจากอย่างอื่น เช่นการตั้งครรภ์ค่ะ อยากถามว่าควรตรวจปัสสาวะรึเปล่า ถ้าตรวจควรตรวจวันไหนคะ แล้วปกติประจำเดือนที่ออกจากการที่เราทานยาคุมมักจะเป็นอย่างไร ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

28 กุมภาพันธ์ 2556 15:54:00 #3

เรียน คุณ kanompung,

Minidoz ชื่อยาก็บอกเป็นนัย ๆนะครับ ว่าต้องมีอะไร มินิ หรือ น้อย อย่างแน่นอน

ตัวยาประกอบด้วย ethiny estradiol (ฮอร์โมนเอสโตรเจน) 15 ไมโครกรัม และ gestodene (ฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน) 60 ไมโครกรัม

ยาคุมกำเนิดโดยทั่วไป จะมีเอสโตรเจน 20-30 ไมโครกรัม ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจน จะช่วยให้มีการหนาตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก ไม่หลุดลอกก่อนกำหนด แต่ยาคุมกำเนิดที่คุณรับประทานอยู่ มีเอสโตรเจนน้อย (แต่ยังคงสามารถออกฤทธิ์คุมกำเนิดได้) จึงทำให้

  1. มีเยื่อบุผนังมดลูกหลุดลอกก่อนกำหนด เกิดเป็นเลือดกะปริบกะปรอย ระหว่างที่รับประทานยาคุมกำเนิด Minidoz

  2. เมื่อมีการค่อย ๆหลุดลอกของเยื่อบุผนังมดลูก ระหว่างเดือน จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ

 

ส่วนที่คุณสอบถามว่าประจำเดือนของการรับประทานยาคุมกำเนิดทั่วไป ก็จะคล้ายกับปกตินะครับ เพียงแต่หากรับประทานไปนาน ๆอาจมีประจำเดือนมาน้อยทั้งปริมาณและจำนวนวันได้ครับ

หากคุณรับประทานยาได้ถูกต้องและสม่ำเสมอ ไม่น่าจะเกิดการตั้งครรภ์นะครับ

  1. แผงแรกที่เพิ่งหมดไป คุณเริ่มรับประทานยาเม็ดแรก ที่เป็นเม็ดยาสีน้ำตาล ในวันแรกของประจำเดือน (สีเขียวจะเป็นเม็ดแป้ง/วิตามิน)

  2. รับประทานยาในช่วงเวลาเดียวกันของทุกวัน เช่น 3-4 ทุ่ม ก็ควรเป็นเวลาเดิม ๆทุกวัน

  3. ไม่มีการรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆโดยไม่ได้มีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

  4. รับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากชา กาแฟ หรือนม อาจมีผลลดระดับยาได้

 

อาการประจำเดือนกะปริบกะปรอย ส่วนใหญ่จะค่อย ๆดีขึ้นเองภายใน 2-3 เดือนแรก แต่หากไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาสูติ-นรีแพทย์ เพื่อปรับเปลี่ยนยาที่มีฮอร์โมนสูงขึ้น

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Kano*****g

16 มีนาคม 2556 07:07:44 #4

ได้ยินมาว่าทานยาคุมกำเนิดแล้วประจำเดือนที่มาคือประจำเดือนหลอก

จึงอยากทราบกลไกการออกฤทธิ์ของยาคุมค่ะ

ถ้าใช้ยาคุมกำเนิดแบบปกติ การป้องกันแบบหน้า 7 หลัง 7 จะมีผลหรือเปล่าคะ

แล้วกรณีที่ทานยาช้าไป 30 นาที ทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือเปล่า

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ 

 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

17 มีนาคม 2556 05:39:52 #5

เรียน คุณ kanompung,

จากคำถามของคุณ กลไกการคุมกำเนิด โดยส่วนใหญ่ คือขัดขวางไม่ให้มีการผสมระหว่างไข่และอสุจิ โดยถ้าเป็นยาคุมกำเนิด ก็คือจะระงับไม่ให้มีการตกของไข่ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงจนถ้ามีการผสม ก็จะฝังตัวไม่ได้ หรือว่าหลุดลอกก่อนกำหนด ครับ ดังนั้น ถ้าคุณรับประทานยาคุมกำเนิดถูกต้องและสม่ำเสมอ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหน้า 7 หลัง 7 ครับ

เพื่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด ไม่ต้องถึงกับเป็นเวลาเดิมเป๊ะครับ แต่ขอให้เป็นช่วงเวลาเดิม เพื่อให้ระดับยาในเลือดสม่ำเสมอ เช่น เวลา 21-22 นาฬิกา นอกจากช่วยเรืองระดับยาแล้ว ยังช่วยป้องกันการลืมรับประทานยาอีกด้วย
เท่าที่ได้อ่านคำถามของคุณแล้ว แนะนำให้ไปพบสูติ-นรีแพทย์ เพื่อคัดเลือกยาและรับฟังคำแนะนำอย่างละเอียดจากเภสัชกรจะดีกว่านะครับ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากการใช้ยา

หากต้องการศึกษาข้อมูลของยาคุมกำเนิดเพิ่มเติม แนะนำให้อ่านได้จากหัวข้อ (ตามลิงก์ด้านล่างครับ)
ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)


http://haamor.com/th/ยาเม็ดคุมกำเนิด

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล