กระดานสุขภาพ

ยาคุม
Anonymous

6 พฤษภาคม 2560 11:41:08 #1

พอดีหนูกินนาคุมแบบ28เม็ดมาเกือบ2ปีแล้วแต่เวลามีอะไรกับแฟนก้อหลั่งนอกนะค่ะประจำเดือนก้อมาตลอดเเระจนเราต้องแยกมาทำงานคนละที่และก้อไม่มีอะไรกับแฟนและใครเรยก้อกินมาเกือบ3-4เดือนได้แต่ก้อกินจนยาหมดนะค่ะจึงเลือกไม่กินต่อเพราะไม่ได้มีอะไรกับแฟนตั้ง3เดือนแล้วจึงเลิกกินแต่พอเลิกกันเดือนถัดมาประจำเดือนก้อไม่มาตอนนี้ก้อจะ1เดือน10วันแร้วมีเพียงตกขาวที่มาอยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรค่ะ
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 53 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.06 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

15 พฤษภาคม 2560 05:15:30 #2

หากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์นั้นอยู่ในช่วงที่ทานยาคุมกำเนิดอยู่และทานอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับแม้จะหลั่งนอกหรือหลั่งในนะครับ และ ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนะครับและก็ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพนะครับ ซึ่งปกติแล้ว หลังจากที่ทานยาคุมกำเนิดมาหลายๆรอบเดือน แล้วในช่วง 1-3 เดือนแรกนั้น อาจยังไม่มีการตกไข่ หรืออาจมีแต่ไม่สม่ำเสมอครับ ทำให้รอบประจำเดือนในช่วงนี้ไม่มาหรือมาไม่เป็นรอบนะครับ ถ้าไม่มีสาเหตอื่นๆที่มีผลต่อการตกไข่ ประจำเดือนก็จะมาตามรอบปกตินะครับ

แต่หากหลังจากนั้น รอบประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ

ส่วนในเรื่องตกขาวนั้น ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สังเกตุอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ