กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องยาคุม ทานแล้าท้องเสียค่ะ
Anonymous

16 กุมภาพันธ์ 2556 06:27:56 #1

สวัสดีค่ะ พอดีทานยาคุมยาสมินเป็นแผงที่2 แล้ว แต่ช่วงที่หยุดยาคุม7 วันของแผงที่2 เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ท้องเสียติดต่อกัน 2 วันค่ะ แต่ประจำเดือนก้มาปกตินะค่ะ หลังจากครบหยุดยาครบ7วัน ก้เริ่มทานยาคุมเม็ดที่1 ของแผงทที่3 ตามปกติในเวลา4ทุ่ม40 หลังจากนั้นมีอาการท้องเสีย อีก3 ครั้งภายใน1ชม จึงกินยาคุมไปอีก1เม็ด จากนั้นมีอาการท้องเสียอีก1ครั้งแล้วหายไป อยากทราบว่า

 

1. ยาคุมยังคงมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนินอยู่ไหมค่ะ(ทานมาแล้ว2แผง) ในเมื่อช่วงหยุดยา7วันมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง

2. เกิดอาการท้องเสียในเม็ดแรกของแผงที่3 แผงนี้มีประสิทธิภาพอยู่ไหมค่ะ

3. ในวันที่หยุดยาครบ7วัน ในวันที่8ตอนหัวค่ำ มีเพศสัมพันธ์ แต่ใช้ถุงยางร่วมด้วยและหลั่งนอก จะท้องไหมค่ะ

ขอบคุนค่า

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.85 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

19 กุมภาพันธ์ 2556 04:54:43 #2

เรียน คุณ db32e,

1. ยาคุมยังคงมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอยู่ไหมค่ะ(ทานมาแล้ว2แผง) ในเมื่อช่วงหยุดยา 7 วันมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง

ตอบ หากรับประทานถูกต้อง ตรงตามช่วงเวลา ช่วง 7 วัน เป็นช่วงที่ไม่มีไข่ตกนะครับ และเป็นช่วงที่มีการหลุดลอกของผนังมดลูก สภาพไม่เหมาะสมกับการฝังตัวของตัวอ่อนแน่นอนครับ

2. เกิดอาการท้องเสียในเม็ดแรกของแผงที่3 แผงนี้มีประสิทธิภาพอยู่ไหมค่ะ

ตอบ ยาคุมยังคงมีประสิทธิภาพนะครับ ถ้าท้องเสียหรืออาเจียนหลังจากรับประทานยาไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง
ไม่จำเป็นต้องรับประทานเสริมนะครับ แต่ครั้งต่อไป กรณีมีอาการท้องเสียหรืออาเจียนมาก ๆแนะนำให้เลื่อนไปรับประทานมื้อเช้าแทนดีกว่าครับ เพื่อจะได้ไม่ต้องซื้อยามาเสริมอีก 1 แผง

3. ในวันที่หยุดยาครบ 7วัน ในวันที่ 8 ตอนหัวค่ำ มีเพศสัมพันธ์ แต่ใช้ถุงยางร่วมด้วยและหลั่งนอก จะท้องไหมค่ะ

ตอบ ถ้าวันที่ 8 จะเป็นช่วงที่ยังไม่มีไข่ตกนะครับ และถ้าใช้ถุึงยางร่วมด้วย โอกาสตั้งครรภ์ก็ยิ่งน้อยลงอีกครับ

 


เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

26 กุมภาพันธ์ 2556 19:24:58 #3

ขอบคุนค่ะ พอดีมีคำถามเพิ่มเติมค่ะ โดยปกติ ทานยาคุมตอน 4 ทุ่ม40 และจะทาน นมเปรี้ยว ประมาน 3 ทุ่ม หรือ 4 ทุ่ม เป็นประจำ อยากทราบว่าจะมีผลอะไรต่อประสิทธิภาพการคุมกำเนิดไหมค่ะ เครียดมากเลย

Anonymous

26 กุมภาพันธ์ 2556 19:37:15 #4

เพิ่มเติมนะค่ะ ถ้าหากยาคุมระสิทธิภาพลดลง เราจะทราบได้อย่างไรค่ะ เคยอ่านเจอว่า ถ้ายาคุมประสิทธิภาะลดลง จะมีเลือดออกมา ถ้าหากไม่มีเลือดออกมา แสดงว่ายาคุมยังมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอยู่รึป่าวค่ะ

Anonymous

26 กุมภาพันธ์ 2556 20:00:50 #5

ซึ่งเดือนนี้มีเพศสัมพัน ไปในวันที่ 13 21 23 24 25 และมีอาการเจ็บหน้าอก เรื่อยมาตั้งแต่เริ่มยาคุมเม็ดแรกของแผงที่สาม อยากทราบว่า นี่คืออาการของคนตั้งครรภ์รึป่าวค่ะ หรือเป้นอาการของยาที่มีประสิทธิภาพลดลง เนื้อจากทาน นมเปรี้ยวรึป่าว และจะมีโอกาศตั้งครรภ์ มั่ยค่ะ

ปล. ทุกครั่งจะใช้ถุงยางและหลั่งนอก จะเพิ่มประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมั่ยค่ะ

 

Anonymous

27 กุมภาพันธ์ 2556 14:26:13 #6

นอกจากนมเปรี้ยวแล้ว บางวันก็ทาน แอร์เอ๊ก แก้ท้องอืด จะส่งผลต่อยาคุมมั้ยค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

27 กุมภาพันธ์ 2556 17:28:21 #7

เรียน คุณ db32e,

จากคำถามของคุณ ตามหลักวิชาการไม่พบรายงานว่ายาคุมกำเนิดจะลดระดับลง เมื่อรับประทานร่วมกับนมเปรี้ยวครับ
แต่โดยหลักการทางเภสัช เราไม่แนะนำให้รับประทานยาใกล้กับมื้อนมนะครับ เนื่องจากนมจะเคลือบกระเพาะ หรือเปลี่ยนความเป็นกรดด่างของทางเดินอาหาร ทำให้ยาบางส่วนตกตะกอนหรือจับเป็นสารประกอบเชิงซ้อนกับแคลเซียมในนมได้ จากวิชาสุขศึกษาสมัยก่อน หากผู้ป่วยได้รับสารพิษเข้าไป แพทย์จะแนะนำให้รับประทานนมหรือไข่ขาวเพื่อช่วยเจือจางและลดการดูดซึมสารพิษ

ดังนั้นหากคุณต้องการจะดื่มนม/นมเปรี้ยว ควรรับประทานหลังอาหารเย็นทันที เพื่อให้ร่างกายได้ย่อยนมไปให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน

นอกจากจะเพิ่มความมั่นใจในการดูดซึมของยาคุมกำเนิด ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกรดไหลย้อนได้อีกด้วย
ส่วนเรื่องเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างคุมกำเนิด ก็เป็นตัวช่วยสังเกตได้ง่าย ๆครับ ว่าระดับฮอร์โมนเริ่มลดต่ำลง จนทำให้เยื่อบุผนังมดลูก เริ่มมีการหลุดลอกก่อนกำหนด แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนนะครับ

ยาคุมกำเนิดโดยส่วนใหญ่ ถ้ารับประทานถูกต้องและสม่ำเสมอ ก็ไม่ได้ป้องกันได้ 100% นะครับ การสวมถุึงยางอนามัยหรือหลั่งนอกก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้อีกส่วนหนึ่งครับ

ฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาคุมกำเนิด ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดอาการเจ็บคัดเต้านมได้ แต่ไม่ใช่เจ็บแน่นหน้าอก ร่วมกับมีอาการหอบเหนื่อยแบบนั้นนะครับ ถ้ามีอาการดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม

ส่วนยา Air-X เป็นยาที่ช่วยให้ฟองอากาศในทางเดินอาหารแตกออก ช่วยลดอาการแน่นท้อง ท้องอืดได้ ไม่ส่งผลต่อการดูดซึมยาคุมกำเนิด

ขอแนะนำเสริมนะครับ ดูจากอาการแน่นท้อง ท้องอืด ร่วมกับอาการท้องเสียบ่อย ๆ แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติมว่า มีปัญหาผิดปกติในระบบทางเดินอาหารหรือไม่ แต่ไม่ควรรับประทานนมก่อนนอน เืนื่องจากนมเป็นอาหารที่ย่อยยาก

ไม่ควรเพิ่มภาระให้กับกระเพาะอาหารก่อนนอนอีก

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

28 กุมภาพันธ์ 2556 04:11:47 #8

ขอบคุนมากค่ะ ถ้ามีปันหาอะไรจะทาปรึกษาอีกนะค่ะ เคยพบแพททางเดินอาหารแล้วค่ะ หมอบอกกระเพาะดิฉันค่อยข้างเซนซิทีฟ กินของเผ็ด เปรี้ยว หรือของมันมากจะไม่ได้ค่ะ 

Anonymous

28 กุมภาพันธ์ 2556 04:13:06 #9

แล้วอย่างนี้ควรทานยาคุมแผงนี้ให้หมด หรือควรหยุดค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

1 มีนาคม 2556 15:33:54 #10

เรียน คุณ db32e,

ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่นะครับ เพียงแต่รับประทานยาให้ถูกต้องเท่านั้น

  1. รับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น ควรเป็นช่วงเวลาเดียวกันทุกวัน เช่น 4-5 ทุ่ม ก็ต้องเป็นช่วงเดียวกันทุกวัน
  2. ไม่รับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากบางรายการมีผลต่อระดับของยาคุมกำเนิดได้ เช่น ยาปฏิชีวนะ นม แคลเซียม น้ำผลไม้บางชนิด (เช่น เกรปฟรุต แครนเบอร์รี่ฯ)
  3. หากมีอาการท้องเสียหรืออาเจียน ให้เลื่อนมื้อยาไปเป็นมื้อเช้าที่อาการต่าง ๆทุเลาลงแล้ว โดยให้ปฏิบัติเหมือนกับการลืมรับประทานยา คือรับประทานหลังอาหารเช้า(วันรุ่งขึั้น) 1 เม็ด และ คืนนั้น อีก 1 เม็ด (ตามเวลาปกติ)

เนื่องจากหากท้องเสียหรืออาเจียน ภายใน 30 นาที หลังรับประทานยา ต้องมีการรับประทานยาคุมกำเนิดเข้าไปใหม่
แต่ถ้าเกิน 1 ชั่วโมงแล้ว ไม่ทราบว่ามีการดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกายมากน้อยเพียงใด

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

12 มีนาคม 2556 07:24:02 #11

หมอค่ะ การทาน วิตามินซี grape seed คอลาเจนที่มีส่วนผสมของวิตามินอีและไนอะซิน ไม่ทราบว่า ยาพวกนี้มีผลอะไรต่อประสิทธิภาพของยาคุมหรือป่าวค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

13 มีนาคม 2556 07:38:46 #12

เรียน คุณ db32e,

ถ้ามีเฉพาะที่แจ้งมาก็ไม่มีรายงานเรื่องการลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดครับ ส่วน collagen ร่างกายสร้างเองอยู่แล้วนะครับ การรับประทานเข้าไปไม่ได้ช่วยอะไร เนื่องจากขนาดโมเลกุลใหญ่ เมื่อผ่านกระเพาะอาหารต้องมีการย่อย ก็ไม่ได้นำไปใช้อยู่ดี

หนทาง คือ ต้องไม่ให้คอลลาเจนถูกทำลาย โดยการรับประทานวิตามินซี วิตามินอี ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ และต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานให้ครบ 5 หมู่ เน้นพวกผัก ผลไม้ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างน้อย สัปดาห์ละ 150 นาที (5 วัน ๆละ 30 นาที) นอกจากจะช่วยป้องกันคอลลาเจนในผิวหนังที่จะถูกทำลายไปตามวันเวลาได้ครับ ยังช่วยเรื่องความแข็งแรงของสุขภาพด้วยครับ

Anonymous

30 มีนาคม 2556 17:47:45 #13

คุณหมอค่ะ 1. ถ้าต้องการหยุดยาคุมกำเนิด คือทานยาให้หมดแผงแล้ว สามารถหยุดยาได้เลยใช่มั่ยคะ

2. ถ้าไม่ค่อยได้มีเพศสัมพันแล้ว คือนานอาทิต2อาทิตเจอกันที ไม่ควรทานยาคุมใช่มั่ยค่ะ แล้วมีวิธีคุมกำเนิดไหนแนะนำมั่ยค่ะ นอกจากถุงยาง เพราะปกติใช้อยุ่แล้วค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

1 เมษายน 2556 14:44:10 #14

เรียน คุณ db32e,

ขอตอบเป็นข้อ ๆนะครับ

1. ถ้าต้องการหยุดยาคุมกำเนิด คือทานยาให้หมดแผงแล้ว สามารถหยุดยาได้เลยใช่มั่ยคะ

ตอบ ถูกต้องครับ เมื่อยาคุมกำเนิดหมดแผงแล้ว ก็หยุดยาได้เลยครับ เมื่อหยุดยาก็จะมีประจำเดือนมา อาจจะมากหรือน้อย นานหรือเร็ว กว่า 7 วัน ก็ได้ครับ เนื่องจากจะมีฮอร์โมนบางส่วนสะสมอยู่ใต้ชั้นไขมันในผิวหนัง ค่อย ๆปลดปล่อยออกมา ส่วนใหญ๋ประมาณ 3 เดือน ก็จะกลับสู่ระดับปกติครับ

2. ถ้าไม่ค่อยได้มีเพศสัมพันแล้ว คือนานอาทิต2อาทิตเจอกันที ไม่ควรทานยาคุมใช่มั่ยค่ะ แล้วมีวิธีคุมกำเนิดไหนแนะนำมั่ยค่ะ นอกจากถุงยาง เพราะปกติใช้อยุ่แล้วค่ะ

ตอบ จากเงื่อนไขที่คุณให้มา วิธีสวมถุงยางอนามัยเหมาะสมที่สุดแล้วครับ เนื่องจากนาน ๆพบกันที จะได้ลดปริมาณยาที่คุณจะได้รับเข้าสู่ร่างกาย หรืออาจใช้ห่วงคุมกำเนิด ชนิดไม่มีฮอร์โมน ต้องให้แพทย์ใส่ให้ 1 ครั้ง ใช้ได้ 5 ปี หรือเหตุผลคือไม่อยากรับประทานยาคุมกำเนิด ก็มียาคุมกำเนิดชนิดปิดผิวหนัง หรือ เป็นห่วงคุมกำเนิดชนิดสวมเอง แต่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนนะครับ เพื่อดูความเหมาะสมก่อนเลือกวิธีที่เหมาะสมต่อไป

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

15 เมษายน 2556 04:21:43 #15

คุนหมอค่ะ พอดีวันที่10ตอนสี่ทุ่มต้องเป็นวันที่เริ่มยาเม้ดแรกของแผงที่5 แต่ดิฉันไม่มั่นใจว่าทานยาไปหรือยัง เนื่องจากช่วงนั่นกำลังเดินทางอยุ่บนรถ ด้วยเกตุนี้วันรุ่งขึ้นตอนบ่าย3 จึงทานยาคุมไป1เม็ด และเมื่อถึงเวลา4ทุ่มของวันที่11ก้ทานอีก1เม้ดเป็นปกตอ มาเรื่อยๆ
อยากทราบว่า 1. ถ้าหากวันที่10 ลืมรับประทานยา ยังมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไหมค่ะ
2. ถ้าวันที่10 ไม่ได้ลืมทานยา แต่ทานยาคุมในแพงชดเชยเพิ่มเข้าไป1เม้ด การกินยาคุมเกินวันละ1เม้ด จะส่งผลต่อการคุมกำเนิดหรือเปล่าค่ะ
3.ยาคุมแผงนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอยุ่ไหมค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

16 เมษายน 2556 15:43:28 #16

เรียน คุณ db32e,

จากคำถามของคุณขอตอบเป็นข้อ ๆนะครับ

1. ถ้าหากวันที่10 ลืมรับประทานยา ยังมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไหมค่ะ
ตอบ เรื่องนี้คงไม่จำเป็นนะครับ เพราะว่าคุณรับประทานยาเสริมเข้าไปอีก 1 เม็ดแล้ว โดยทั่วไปยาคุมกำเนิดจะสามารถรับประทานได้ไม่เกินวันที่ 5 ของรอบเดือนครับ ดังนั้นประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดยังได้อยู่ครับ

2. ถ้าวันที่10 ไม่ได้ลืมทานยา แต่ทานยาคุมในแพงชดเชยเพิ่มเข้าไป1เม้ด การกินยาคุมเกินวันละ1เม้ด จะส่งผลต่อการคุมกำเนิดหรือเปล่าค่ะ
ตอบ หากรับประทานเกิน ก็จะได้รับฮอร์โมนเกิน อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรืออาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ เนื่องจากระดับฮอร์โมนไม่สม่ำเสมอ

3. ยาคุมแผงนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอยุ่ไหมค่ะ
ตอบ คุณคงได้คำตอบในข้อแรกไปแล้วนะครับ ประสิทธิภาพยังคงอยู่

หมายเหตุ จากคำถามของคุณ ขอเสนอแนะให้ใช้ปฏิทินให้เป็นประโยชน์นะครับ รับประทานยาวันไหนไปแล้ว ก็ให้ทำเครื่องหมายบนปฏิทิน หรือ หากไม่ค่อยได้มีเพศสัมพันธ์แล้ว ลองใช้ถุงยางอนามัย หรือใช้เป็นห่วงคุมกำเนิดก็ดีนะครับ จะได้ไม่ต้องรับประทานยา หรือกังวลว่าจะลืมรับประทานยา

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

16 เมษายน 2556 19:08:55 #17

คุนหมอค่ะ วันที่5 ของรอบเดือนคือนับจากการมีประจำเดือนใช่มั้ยค่ะ ถ้าอย่างนั้นเมื่อตอนดิฉันทานยาคุมแผงที่4หมด อีก2วันประจำเดือนมา คือมาวันที่5เมษายน แต่ถ้าดิฉันกินยาเม้ดแรกไปวันที่11 เมื่อนับจากวันที่5 ก้ถือว่าเป็น6วันของรอบเดือน

อย่างนี้ดิฉันนับถูกมั้ยค่ะ แล้วยาแผงนี้ยังมีประสิทธิภาพอยู่หรอค่ะ

ปล.เมื่อคืนวันที่10ได้มีเพศสัมพัน จะมีโอกาสท้องมั่ยค่ะ

Anonymous

16 เมษายน 2556 19:11:32 #18

แก้ไขค่ะ ประจำเดือนมาวันที่5 จิงๆต้องทานเม้ดแรกวันที่10 แต่ดันลืมมาทานวันที่11 ดังนั้น การทานวันที่11 ก้ห่างจากวันแรกของรอบเดือน7 วัน

Anonymous

16 เมษายน 2556 19:22:54 #19

ปล มีเพศสัมพันวันที่10กับ14 ค่ะ แต่ใช้ถุงยางร่วมด้วย

Anonymous

16 เมษายน 2556 19:36:46 #20

รบกวนอีกนิดนะค่ะคุนหมอ เริ่มสงสัยเกี่ยวกับการเริ่มแผงใหม่ของยาคุมของผู้ที่กินติดต่อมาหลายแผงแล้วนะค่ะว่า เราต้องเริ่มทานยาคุมเม้ดแรกของแผงใหม่วันที่8 หลังหยุด7วัน หรือเริ่มทานเม้ดแรกของแผงใหม่ในวันที่ประจำเดือนทาวันแรกเหมือนแผงที่1กันแน่ค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

18 เมษายน 2556 03:50:18 #21

เรียน คุณ db32e,

จากคำถามของคุณ

  • หากเริ่มยาคุมกำเนิดช้าไป แต่ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปครับ
  • ยาคุมกำเนิด เฉพาะแผงแรกเท่านั้น ที่ควรรับประทานยาภายในวันแรกของรอบเดือน เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพในการยับยั้งไข่ตก แต่เมื่อระดับยาคุมกำเนิดสม่ำเสมอแล้ว ให้เริ่มยาภายหลังจากไม่ต้องรับประทานยา 7 วัน ครับ
  • แนะนำให้คุณไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจะดีกว่านะครับ เพื่อปรับความเข้าใจในการรับประทานยาอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาของคุณ เนื่องจากต้องมีการปรับคำแนะนำให้ เหมาะสมกับภาวะผู้ป่วยแต่ละราย

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล